วิถีทาสหมา! 5 วิธีเลือกขนมหมาให้กินเพลินแต่ไม่พังสุขภาพ (อัปเดท 2025)

May 01, 2025
การรับเลี้ยงและการดูแล
วิถีทาสหมา! 5 วิธีเลือกขนมหมาให้กินเพลินแต่ไม่พังสุขภาพ (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

วิถีทาสหมา! 5 วิธีเลือกขนมหมาให้กินเพลินแต่ไม่พังสุขภาพ

ทาสหมาหลายคนรักการให้ขนมหมา (Treats) เป็นชีวิตจิตใจ
ไม่ว่าจะเพื่อฝึกสั่งนั่ง-คอย หรือเพราะเห็นน้องทำหน้าหงอยนิดเดียวก็ใจอ่อน
แต่ขนมหมาไม่ใช่แค่ของกินเล่น — มันคือ "ตัวแปรสุขภาพที่ทรงพลัง"

ขนมที่ดีช่วยฝึกพฤติกรรม เสริมสุขภาพ และกระชับความสัมพันธ์
แต่ถ้าเลือกผิด...ก็อ้วนไว ฟันผุ หรือแพ้แบบไม่รู้ตัว

วันนี้ผมจะพานุดลุยแบบ “วิถีทาสหมาอย่างมีสติ”
กับ 5 วิธีเลือกขนมหมาให้กินเพลิน ปลอดภัย และเสริมสุขภาพระยะยาว


1 อ่านฉลากก่อนใจอ่อน

ขนมหมาบางชนิดดูหน้าตาน่ากินยิ่งกว่าข้าวเย็นของเรา
แต่สารกันเสีย น้ำตาล เกลือ หรือสีสังเคราะห์ อาจซ่อนอยู่ข้างใน

เคล็ดลับ

  • มองหาฉลากที่บอกชัดว่า “ไม่มีสีและกลิ่นสังเคราะห์”

  • หลีกเลี่ยงคำว่า “By-product”, “Artificial Flavor”, หรือ “Propylene Glycol”

ข้อมูลจาก The Dog Food Advisor
ขนมที่ดีควรมีวัตถุดิบจากธรรมชาติเป็นอันดับแรก เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา หรือมันเทศอบ


2 เลือกตามวัตถุประสงค์ อย่าคิดว่า “ขนมเหมือนกันหมด”

ขนมหมามีหลายประเภทมากกว่าที่คิด
เช่น ขนมฝึก (Training Treats), ขนมขัดฟัน (Dental Chews), หรือขนมเสริมวิตามิน

คำแนะนำ

  • ถ้าใช้ฝึก ควรเลือกขนมขนาดเล็ก ให้แคลอรีต่ำ (เช่นไม่เกิน 3–5 แคลอรีต่อชิ้น)

  • ถ้าเพื่อดูแลฟัน ให้เลือกสูตรที่ได้รับการรับรองจาก VOHC (Veterinary Oral Health Council)

  • ถ้าหมามีปัญหาข้อต่อ ลองหาขนมที่มี “Glucosamine” หรือ “Chondroitin”

ข้อมูลเสริม
ขนมที่ดีไม่ใช่แค่กินแล้วดีใจ แต่ควร “มีเป้าหมายชัดเจน” เช่น เสริมภูมิ ฟันสะอาด หรือบำรุงขน


3 สัดส่วนต้องเหมาะ อย่าให้เกิน 10% ของพลังงานต่อวัน

“หมากินเก่ง” อาจดูน่ารัก แต่ถ้า Treat เยอะกว่าข้าว จะเสี่ยงโรคอ้วนแบบไม่รู้ตัว

ข้อควรรู้

  • AAFCO แนะนำว่า Treat ไม่ควรเกิน 10% ของพลังงานต่อวัน

  • หมาขนาดกลาง (15 กก.) ที่ต้องการพลังงานประมาณ 800 kcal/วัน
    — ควรได้ Treat ไม่เกิน 80 kcal/วัน เท่านั้น

เคล็ดลับเล็กๆ
ใช้ Treat เป็น “รางวัล” ไม่ใช่ “ของปลอบใจตอนทาสรู้สึกผิดที่ไม่พาเดิน”


4 หมาแพ้ง่ายต้องเลือกสูตรเฉพาะ

น้องหมาบางตัวมีอาการแพ้ขนมโดยที่เราคาดไม่ถึง
ตั้งแต่ผื่นคัน หูอักเสบ ไปจนถึงท้องเสีย

เทคนิคอื่นๆ

  • มองหาขนมที่เป็น “Limited Ingredient” หรือ “Hypoallergenic”

  • หลีกเลี่ยงขนมที่มีโปรตีนซ้ำกับมื้อหลัก เช่น ถ้ากินข้าวไก่แล้ว อย่าให้ขนมไก่ทั้งวัน

  • ถ้าหลังให้ Treat แล้วน้องเกาหูบ่อย ลองหยุดก่อนแล้วสังเกตผล

ข้อมูลจาก Vetstreet
หมาที่มีอาการแพ้อาหาร มักเริ่มแสดงอาการที่ผิวหนังหรือทางเดินอาหารก่อน


5 ระวังขนาด ความแข็ง และอายุของ Treat

ขนมที่แข็งเกินไปอาจทำให้ฟันหัก
ส่วนขนาดที่ไม่พอดีอาจทำให้น้องสำลักได้โดยเฉพาะพันธุ์หน้าสั้น

คำแนะนำเล็กๆ

  • เลือก Treat ที่พอดีกับขนาดปากและฟัน

  • สำหรับหมาสูงวัยให้เลือก Treat ที่นุ่ม เคี้ยวง่าย ไม่บาดเหงือก

  • อย่าลืมดูวันหมดอายุ โดยเฉพาะขนมแบบสดหรืออบแห้งธรรมชาติ

ข้อมูลเสริมจาก ASPCA
ขนมหมดอายุหรือเก็บผิดวิธี อาจทำให้เกิดรา หรือแบคทีเรียอันตรายได้


ขนมหมาไม่ใช่เรื่องเล่น ถ้าคุณเลือกดี น้องจะได้ทั้งความสุขและสุขภาพ
แต่ถ้าเลือกผิด...ทั้งพลังงานเกิน ทั้งแพ้ ทั้งฟันเสีย
จำไว้ว่าทาสที่ดีต้องไม่ใช่แค่ใจอ่อน แต่ต้องมี “ความรู้คู่ความรัก” ด้วยครับ


“ขนมนิดเดียว หมาใจฟู
ถ้าเลือกผิดอยู่ ปัญหาจะมา
ดูฉลากให้ชัวร์ เลือกสูตรมีค่า
สุขภาพดีได้...ด้วย Treat ที่พอดี!”


#วิถีทาสหมา #ขนมหมาต้องรู้ #Treatดีชีวิตดี #ขนมหมาไม่ใช่แค่ของเล่น #Lazadogรู้ใจหมา


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts