เคยไหมครับ? น้องหมาเกาขาจนคุณคิดว่าเป็นบีบอย
หรือเลียเท้าตัวเองจนขนเปียกแฉะไปหมด
ถ้าใช่…อย่าคิดว่าเขาแค่ “คันเล่นๆ” เพราะอาจเป็นสัญญาณของ อาการแพ้ในสุนัข (Allergies in Dogs)
ที่ต้องการการดูแลจริงจังมากกว่าการพูดปลอบว่า “โอ๋ๆ เดี๋ยวก็หาย”
วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 อาการแพ้ที่พบบ่อยในหมา พร้อมเทคนิคดูแลแบบมือโปร
เพราะเจ้าทาสที่ดีต้องรู้ทันโรคผิวหนัง ไม่ใช่รอจนหมาขนร่วงถึงค่อยพาไปร้านยา
การเกาคือภาษากายของหมาที่บอกว่า “ฉันไม่โอเคกับผิวตัวเอง”
แต่ถ้าเกาจนขนร่วง เป็นจุดแดง หรือมีสะเก็ด = ต้องสงสัยอาการแพ้ทันที
ข้อมูลจาก American College of Veterinary Dermatology (ACVD):
โรคผิวหนังจากอาการแพ้ (Atopic Dermatitis) เป็นปัญหาที่พบได้ถึง 10–15% ของสุนัขทั่วโลก
โดยเฉพาะพันธุ์ที่ไวต่อสิ่งกระตุ้น เช่น ปั๊ก ชิสุ เฟรนช์บูลด็อก และโกลเด้น
เคล็ดลับ:
หากน้องเกาซ้ำจุดเดิมทุกวัน ให้ถ่ายภาพไว้เปรียบเทียบทุก 3 วันเพื่อดูความรุนแรง
และควรหลีกเลี่ยงการให้เลียแผล เพราะจะทำให้เกิดเชื้อราแทรกซ้อน
หลายคนคิดว่า “หมาเลียเท้า = สะอาดดี”
แต่จริงๆ แล้วมันคือหนึ่งในอาการที่เจอบ่อยมากในหมาที่แพ้ไรฝุ่น หรือแพ้หญ้า
ข้อควรรู้:
หมาที่เลียเท้าบ่อยจนขนเปียกหรือผิวลอก = ระบบภูมิคุ้มกันกำลังตอบสนองกับสิ่งกระตุ้น
และอาจนำไปสู่ แผลติดเชื้อแบคทีเรียหรือยีสต์ ได้ภายในไม่กี่วัน
คำแนะนำ:
ล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดหลังกลับจากเดินเล่นทุกครั้ง
หรือใช้ผ้าชุบน้ำเกลือเช็ดซอกนิ้วเบาๆ แล้วซับให้แห้งสนิท
อาการแพ้บางชนิดจะส่งผลให้ หูอักเสบเรื้อรัง
โดยเฉพาะในหมาที่มีหูพับ เช่น ค็อกเกอร์ ชิสุ หรือบีเกิล
ข้อมูลจาก Cornell University College of Veterinary Medicine:
พบว่า เกือบ 70% ของหมาที่เป็นภูมิแพ้ จะมีอาการหูอักเสบอย่างน้อยปีละครั้ง
เทคนิคเสริม:
ใช้น้ำยาเช็ดหูสูตรอ่อนโยนที่ไม่มีแอลกอฮอล์
เช็ดหูสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง หากอยู่ในฤดูฝนหรืออากาศชื้น
อย่าหยอดยาคนหรือยาหยอดหูแมวให้หมาเด็ดขาด
หมาที่มีอาการแพ้ทางตาอาจจะเริ่มมีน้ำตาไหล หรือขี้ตาเหนียวมากกว่าปกติ
และถ้าปล่อยไว้นานอาจเกิด ภาวะตาอักเสบเรื้อรัง หรือแผลกระจกตา ได้
ข้อควรรู้:
แพ้ตาอาจเกิดจากฝุ่นละออง ควันบุหรี่ หรือแชมพูที่ระคายเคือง
สังเกตง่ายๆ เวลาหมานั่งหรี่ตา หรือลูบหน้ากับเฟอร์นิเจอร์บ่อยๆ
คำแนะนำ:
ล้างตาด้วยน้ำเกลือสำหรับสัตว์ หรือใช้สำลีชุบน้ำสะอาดเช็ดมุมตาเบาๆ วันละ 1–2 ครั้ง
อาการแพ้ไม่ได้มีแค่ที่ผิวหนังเท่านั้น
หมาบางตัวแพ้อาหาร เช่น ไก่ ข้าวโพด หรือเนื้อวัว อาจมีอาการ ถ่ายเหลวเรื้อรัง ท้องอืด หรือท้องร้อง
ข้อมูลจาก PetMD:
Food allergy เป็นหนึ่งในสาเหตุอันดับต้นๆ ของปัญหาผิวหนังและระบบย่อยในหมา
เทคนิค:
ลองทำ food elimination diet คือเปลี่ยนอาหารเป็นสูตรโปรตีนใหม่ เช่น เนื้อเป็ด หรือปลาแซลมอน
แล้วดูว่าอาการดีขึ้นใน 2–4 สัปดาห์หรือไม่
อย่าเปลี่ยนอาหารกะทันหัน ให้ค่อยๆ ผสมในอัตรา 25–50–75%
อาการแพ้ในหมาอาจไม่ใช่เรื่องรุนแรงในทันที
แต่มันคือความรำคาญ เจ็บคัน และความเครียดสะสมที่หมาไม่มีทางอธิบายให้เราฟังได้
หน้าที่ของเราคือ “สังเกตอย่างใจเย็น และดูแลอย่างเข้าใจ”
แค่เปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง หรือลองปรึกษาหมอผิวหนังสัตว์โดยเฉพาะ
หมาของคุณก็จะกลับมาขนฟู ผิวใส หายเกา และมีความสุขมากขึ้นอีกหลายเท่า
“ไม่ใช่แค่เกา ไม่ใช่แค่เลีย
แต่คือเสียงขอความช่วยเหลือจากร่างกาย
อย่ารอให้ขนร่วงทั้งแผง
ก่อนคุณจะยื่นมือเข้าใจ”
#วิถีทาสหมา #หมาแพ้ต้องรู้ #เกาหนักอย่าปล่อยผ่าน #แพ้อาหารหมา #Lazadogรู้ใจหมา
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com