วิถีทาสหมา! 5 สัญญาณที่บอกว่า “หมาอ้วนแล้วนะ” (อย่ารอให้น้องเดินแล้วหอบ!) (อัปเดท 2025)

May 02, 2025
healthy สุขภาพ
วิถีทาสหมา! 5 สัญญาณที่บอกว่า “หมาอ้วนแล้วนะ” (อย่ารอให้น้องเดินแล้วหอบ!) (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

วิถีทาสหมา! 5 สัญญาณที่บอกว่า “หมาอ้วนแล้วนะ” (อย่ารอให้น้องเดินแล้วหอบ!)

หมาตัวกลม ขนแน่น ตูดเด้ง หลายคนเห็นแล้วใจละลาย
แต่รู้ไหมครับว่า ความกลมของหมาไม่ได้แปลว่าน่ารักเสมอไป
เพราะถ้ากลมเกินไป = เสี่ยงอ้วน!
และหมาอ้วนไม่ใช่แค่ “เดินช้า” แต่คือจุดเริ่มต้นของโรคเพียบ ตั้งแต่ข้อเสื่อม หัวใจ ไต เบาหวาน ยันอายุสั้น!

วันนี้ผมจะพาคุณมาดู 5 สัญญาณว่าเจ้าหมาอาจน้ำหนักเกิน พร้อมวิธีคุมหุ่นแบบไม่โหด
รับรองว่าน้องหมาไม่ต้องอดจนหงุดหงิด และเจ้าของไม่ต้องใจอ่อนจนพังทุกแผนลดน้ำหนัก


1. ลูบหลังแล้วไม่เจอซี่โครง = มีไขมันแทรกแน่นอน

ลองเอามือลูบข้างลำตัวน้องเบาๆ ถ้าคุณ “จับซี่โครงไม่เจอ” หรือ “ต้องกดถึงจะรู้สึก”
แปลว่าน้องเริ่มมีชั้นไขมันหนาพอสมควรแล้วครับ

ข้อมูลจาก Association for Pet Obesity Prevention (APOP):
ระบุว่า กว่า 59% ของสุนัขในโลกมีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน โดยเจ้าของส่วนใหญ่ “ไม่รู้ตัว” เพราะคุ้นกับหุ่นกลมน่ารัก

เทคนิค:
ตรวจ Body Condition Score (BCS) เดือนละครั้ง หรือปรึกษาสัตวแพทย์ให้ช่วยประเมิน


2. เดินช้าลง เหนื่อยง่าย หอบบ่อย

หมาที่น้ำหนักเกินจะมีแรงกดที่ข้อเท้าและข้อสะโพกมากขึ้น
ทำให้เดินได้ระยะสั้นลง เหนื่อยเร็ว และบางตัวหอบง่ายแม้ไม่ได้ออกกำลัง

ข้อควรรู้:
น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทุก 1 กก. ในหมาพันธุ์เล็ก = เพิ่มแรงกดบนข้อถึง 3–4 เท่า

คำแนะนำ:
เริ่มพาน้องเดินสั้นๆ วันละ 10–15 นาที แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้น
เลี่ยงกิจกรรมที่กระแทกหนัก เช่น กระโดดขึ้น–ลงบันได


3. หายใจเสียงดัง นอนกรนหนัก

ไขมันส่วนเกินบริเวณคอหรือหน้าอก อาจไปเบียดทางเดินหายใจ
ทำให้หมาบางตัวหายใจเสียงดัง หอบแม้อยู่ในห้องแอร์ หรือกรนสนั่นจนคุณต้องลุกไปนอนอีกห้อง

ข้อมูลจาก Veterinary Clinics of North America:
หมาอ้วนมีแนวโน้มเป็น Obstructive Airway Syndrome มากกว่าหมาน้ำหนักปกติถึง 3 เท่า

เคล็ดลับ:
ควบคุมน้ำหนักให้กลับมาในช่วงปกติ จะช่วยให้คุณภาพการนอนและการหายใจดีขึ้นภายใน 1–2 เดือน


4. มีพุงห้อย หรือคอหนาเป็นปล้องๆ

อาจดูขำตอนแรก แต่ถ้าพุงน้องป่องตลอดเวลา หรือมีไขมันใต้คอห้อยเป็นชั้นๆ
ให้รีบเปลี่ยนพฤติกรรมการให้อาหารทันที

เทคนิค:

  • ลดขนมลงเหลือไม่เกิน 10% ของแคลอรีต่อวัน

  • ใช้ถ้วยตวงอาหารเสมอ อย่าใช้ “ความรู้สึก” ในการตัก

  • เปลี่ยนอาหารเป็นสูตรควบคุมน้ำหนักที่มีไฟเบอร์สูง โปรตีนคุณภาพดี และไขมันต่ำ


5. เห็นน้องแล้วรู้สึกเหมือนหมู

ข้อนี้ฟังดูขำ แต่พูดจริงครับ!
ถ้าคุณเริ่มรู้สึกว่าหมาตัวเอง “วิ่งเหมือนหมู วิ่งเป็นลูกกลิ้ง”
นั่นแปลว่าเขาน้ำหนักเกินจนส่งผลต่อบุคลิกภาพแล้ว

ข้อควรจำ:
หมาอ้วนไม่ใช่หมามีความสุขเสมอไป
หลายตัวเริ่มเครียด ไม่อยากขยับ เพราะรู้สึกเหนื่อยและไม่สบายตัว


ความน่ารักของหมาไม่ได้อยู่ที่กลมแค่ไหน
แต่อยู่ที่เขาวิ่งได้ กินดี นอนหลับ และอยู่กับคุณได้นานที่สุด
แค่คุณคุมอาหารให้น้อง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
และอย่าปล่อยให้ขนมหวานตัดสินความรัก
น้องหมาก็จะกลับมาหุ่นดี แฮปปี้ และอายุยืนไปกับคุณอีกนานแน่นอนครับ

“ไม่ต้องผอมจนหิว
ไม่ต้องกลมจนกลิ้ง
แค่รักแบบพอดี
หมาจะอยู่กับคุณ…ได้นานพอ”


#วิถีทาสหมา #หมาอ้วนแล้วนะ #ลดน้ำหนักหมา #หมาหุ่นดีสุขภาพดี #Lazadogรู้ใจหมา


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts