“หมาอยู่แต่ในบ้าน ต้องฉีดวัคซีนด้วยเหรอ?”
“พาไปฉีดแค่พิษสุนัขบ้าก็พอแล้วมั้ง?”
คำถามแบบนี้เจอจนผมหัวจะระเบิดครับ เพราะความจริงแล้ว วัคซีนหมาคือเสื้อเกราะป้องกันโรคร้ายแรงที่หมาไม่ได้เลือก แต่เจ้าของต้องเลือกให้
ไม่ใช่แค่กันโรค แต่ช่วยหมามีชีวิตแข็งแรงยืนยาวและลดค่าใช้จ่ายรักษาหนักๆ ได้เยอะเลยครับ
วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จัก 5 วัคซีนสำคัญที่หมาควรได้รับครบตั้งแต่ลูกจนโต
พร้อมเทคนิคจำง่าย รู้ทันรอบ และเข้าใจชัดว่าฉีดแต่ละครั้งช่วยอะไรหมาคุณได้บ้าง
เจ้าวัคซีนตัวนี้คือพระเอกของวงการ เพราะป้องกันได้ถึง 4 โรคพร้อมกัน ได้แก่
Distemper, Hepatitis, Parvovirus, Parainfluenza
ข้อมูลจาก American Veterinary Medical Association (AVMA):
โรคเหล่านี้มีอัตราการเสียชีวิตสูงมากในลูกหมา โดยเฉพาะ พาร์โวไวรัส ที่ทำให้ลำไส้อักเสบอย่างรุนแรงในเวลาไม่กี่วัน
รอบวัคซีน:
เริ่มฉีดเมื่ออายุ 6–8 สัปดาห์
ฉีดต่อเนื่องทุก 3–4 สัปดาห์จนครบ 3–4 เข็ม
จากนั้นกระตุ้นทุกปี
ข้อควรรู้:
หมาบางตัวอาจมีไข้ต่ำ ง่วง หรือเบื่ออาหาร 1–2 วันหลังฉีด ถือว่าเป็นอาการปกติจากการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน
วัคซีนนี้ไม่ใช่แค่ฉีดให้หมาอยู่รอด แต่คือ สิ่งที่ช่วยไม่ให้เจ้าของติดโรคร้ายตายได้ด้วย
พิษสุนัขบ้าคือโรคที่อันตรายถึงชีวิต 100% ในคนและสัตว์หากติดแล้วไม่ได้ฉีดวัคซีนทัน
ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค:
ประเทศไทยมีการรณรงค์ฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าครอบคลุมทุกตัวปีละหนึ่งครั้ง
เพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ซึ่งเคยสูงถึง 10–30 คน/ปี
รอบวัคซีน:
ฉีดครั้งแรกตอนอายุ 3 เดือน
จากนั้นฉีดกระตุ้นปีละครั้ง
คำแนะนำ:
ควรพกใบรับรองวัคซีนไว้เสมอ หากต้องพาหมาไปเดินห้าง ขึ้นรถ เดินงานสุนัข หรือเดินทาง
โรคนี้หลายคนเรียกว่า “ไอกรนในหมา” หรือ “Kennel Cough”
ติดต่อกันง่ายมากในที่หมาอยู่รวมกัน เช่น โรงแรมสัตว์ ร้านอาบน้ำ หรือสนามฝึก
ข้อควรรู้:
แม้โรคนี้อาจไม่รุนแรงถึงชีวิต แต่ทำให้หมาไอเรื้อรัง ซึม เบื่ออาหาร และเสี่ยงปอดอักเสบในหมาอายุน้อยหรือสูงวัย
รอบวัคซีน:
ฉีดหรือหยอดจมูกปีละครั้ง
จำเป็นสำหรับหมาที่เข้าโรงแรมสัตว์ หรือมีโอกาสเจอหมาอื่นบ่อยๆ
แม้จะไม่ใช่วัคซีนแบบฉีดเข้าร่างกายโดยตรง แต่คือ การป้องกันที่สำคัญไม่แพ้กัน
พยาธิหัวใจติดต่อจาก “ยุง” ที่กัดหมาและปล่อยตัวอ่อนเข้าสู่กระแสเลือด
ข้อมูลจาก American Heartworm Society:
ระบุว่า การติดพยาธิหัวใจสามารถทำให้หัวใจโตและเสียชีวิตได้ใน 6–12 เดือน หากไม่ได้รับการรักษา
วิธีป้องกัน:
ใช้ยาหยอดหลังคอ หรือยาเม็ดทุกเดือน
หรือลงทะเบียนฉีดยาแบบ 6 เดือนหรือปีละครั้งตามคำแนะนำหมอ
คำแนะนำ:
ควรตรวจเลือดก่อนเริ่มใช้ยาเพื่อดูว่าหมาติดพยาธิอยู่แล้วหรือไม่
เช่น วัคซีน Leptospirosis (โรคฉี่หนู) หรือวัคซีน Lyme (จากเห็บ)
ซึ่งอาจจำเป็นในหมาที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่น วิ่งในสวนชื้น เที่ยวธรรมชาติ หรืออยู่ใกล้ฟาร์ม
ข้อควรรู้:
พูดคุยกับสัตวแพทย์เกี่ยวกับพฤติกรรมและพื้นที่ที่หมาอยู่
เพื่อให้ได้โปรแกรมวัคซีนที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป แต่ครอบคลุมพอ
การฉีดวัคซีนสำหรับหมาไม่ใช่เรื่องที่ควร “ชั่งใจ” แต่เป็นเรื่องที่ควร “ทำทันทีที่ถึงเวลา”
หมาพูดไม่ได้ว่าเขากลัวโรคอะไร แต่คุณในฐานะเจ้าของสามารถป้องกันได้ล่วงหน้า
ด้วยตารางวัคซีนที่ครบถ้วน รอบคอบ และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเขา
เพราะหมาที่มีวัคซีนครบ = หมาแข็งแรง เจ้าของก็หายห่วงครับ
“วัคซีนคือเกราะที่คุณให้
คือรักที่หมารู้สึกได้ทุกวัน
หมาไม่ต้องพูดก็ปลอดภัย
ถ้าคุณใส่ใจตั้งแต่วันนี้”
#วิถีทาสหมา #หมาวัคซีนครบ #ป้องกันก่อนป่วย #ฉีดวัคซีนหมาเถอะนะ #Lazadogรู้ใจหมา
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com