รู้ลึก 5 ข้อ! แมวซีดไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะอาจแอบเป็น “โรคโลหิตจาง” แบบที่คุณไม่เคยรู้
ถ้าแมวของคุณดูเหนื่อยง่าย ตัวซีด ไม่ค่อยอยากเล่น หรือกินน้อยลง
บางทีไม่ใช่เพราะ "อากาศร้อน" หรือ "เบื่ออาหาร" แต่อาจเป็นเพราะเขากำลังป่วยเป็น ภาวะโลหิตจางในแมว (Anaemia in Cats) อยู่ก็ได้ครับ
ภาวะนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้แมวอ่อนแอ แต่ยังอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงซ่อนอยู่ข้างใน
วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้ลึกแบบเข้าใจง่าย พร้อมเคล็ดลับและเทคนิคที่จะช่วยให้แมวของคุณฟื้นตัวได้ทันก่อนจะสาย
โลหิตจาง (Anaemia) คือภาวะที่แมวมีจำนวนเซลล์เม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติ ทำให้ร่างกายรับออกซิเจนได้น้อย
ส่งผลให้แมวเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย และดูไม่สดใส
ข้อมูลสำคัญ:
ระดับปกติของ Packed Cell Volume (PCV) หรือ Hematocrit ควรอยู่ที่ 25–45%
ถ้าต่ำกว่า 20% ถือว่าอยู่ในภาวะโลหิตจางระดับกลางถึงรุนแรง
(อ้างอิงจาก Cornell University College of Veterinary Medicine, 2023)
ภาวะนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่:
Regenerative Anaemia (ร่างกายยังพยายามสร้างเม็ดเลือดใหม่อยู่)
Non-Regenerative Anaemia (ไขกระดูกไม่ผลิตเม็ดเลือดใหม่เพียงพอ)
แมวไม่ได้ซีดเพราะ "ง่วง" หรือ "นอนน้อย" แน่นอนครับ มีหลายสาเหตุที่ซ่อนอยู่ และบางอย่างอันตรายกว่าที่คิด
สาเหตุหลักของภาวะโลหิตจางในแมว:
การสูญเสียเลือด: อุบัติเหตุ, แผลภายใน, พยาธิในเลือด เช่น Mycoplasma haemofelis
ทำลายเม็ดเลือด: โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง (IMHA), การติดเชื้อไวรัส เช่น FIV, FeLV
การผลิตลดลง: ปัญหาที่ไขกระดูก, โรคไตเรื้อรัง (CRF), มะเร็ง
งานวิจัย Feline Anaemia Overview, 2021 พบว่า “กว่า 60% ของแมวโลหิตจางในคลินิกสัตว์ป่วยเรื้อรังมีโรคไตเป็นโรคร่วม”
เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ "เก็บอาการ" เก่งมาก อาการของโลหิตจางจึงมักไม่ชัดในระยะเริ่มต้น
แต่ถ้าเจ้าของสังเกตดีๆ จะเห็นความเปลี่ยนแปลงแบบนี้:
อาการที่ควรระวัง:
เหงือกซีดหรือสีชมพูจาง
ขอบตา ซีด (ลองเปิดเบาๆ ดูสีขาวใต้เปลือกตา)
หายใจถี่ หรือหอบง่าย
ไม่ค่อยกินอาหาร อ่อนแรง นอนมาก
ขนไม่เงา ดูโทรม
เทคนิค: ใช้นิ้วกดเหงือกเบาๆ แล้วปล่อย ถ้าเลือดไหลกลับช้าเกิน 2 วินาที อาจมีปัญหาเรื่องการไหลเวียนเลือด
แนวทางการรักษาขึ้นอยู่กับ สาเหตุของโรค ซึ่งอาจต่างกันไปในแต่ละแมว แต่เป้าหมายหลักคือ “แก้ที่ต้นเหตุ และฟื้นฟูร่างกายให้ไวที่สุด”
แนวทางการรักษาทั่วไป:
ให้ธาตุเหล็ก วิตามิน B12 และอาหารเสริมบำรุงเลือด
ใช้ยากระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด เช่น Erythropoietin (ในกรณีโรคไต)
ถ่ายเลือด (ในรายที่โลหิตจางรุนแรงหรือฉุกเฉิน)
รักษาสาเหตุหลัก เช่น ฆ่าพยาธิ, ควบคุมโรคไต, คีโมสำหรับมะเร็งบางชนิด
หมอสัตวแพทย์มักใช้ PCV ต่ำกว่า 15% เป็นเกณฑ์พิจารณา “ต้องถ่ายเลือดทันที”
การดูแลที่บ้านหลังการรักษาสำคัญมากครับ เพราะแมวที่เคยโลหิตจางจะมีภูมิคุ้มกันอ่อนลง และอ่อนแรงง่ายกว่าปกติ
เคล็ดลับการดูแลแมวโลหิตจาง:
ให้อาหารเสริมบำรุงเลือดที่มีธาตุเหล็ก
เลือกอาหารที่ย่อยง่ายและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง
หลีกเลี่ยงการใช้ทรายแมวที่มีฝุ่นเยอะ (ลดความเสี่ยงติดเชื้อ)
ดูแลสุขภาพช่องปาก เพราะฟันผุอาจนำเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดได้
ตรวจสุขภาพและเลือดทุก 3–6 เดือน หรือบ่อยกว่านั้นถ้าเคยมีอาการรุนแรง
แมวที่ดูเฉื่อยๆ ซีดๆ บางทีไม่ได้แค่นอนเยอะ แต่ร่างกายเขาอาจกำลังร้องขอออกซิเจนแบบที่เราไม่รู้ตัว
เข้าใจภาวะโลหิตจางให้มากขึ้น = ช่วยชีวิตเขาได้เร็วกว่าที่คิด
อย่ารอให้ซีดจนหมดแรง เพราะความเข้าใจของคุณอาจช่วยชีวิตแมวได้ทันเวลา
❝แมวซีด = สัญญาณเตือน ไม่ใช่แค่ขี้เกียจนอน❞
#แมวโลหิตจาง #ภาวะซีดในแมว #ดูแลแมวป่วย #แมวสุขภาพดี #CatAnaemia #Lazadogรู้ใจแมว
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com