รู้ลึก 5 ข้อ! แมวซีดไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะอาจแอบเป็น “โรคโลหิตจาง” แบบที่คุณไม่เคยรู้ (อัปเดท 2025)

Apr 25, 2025
healthy สุขภาพ
รู้ลึก 5 ข้อ! แมวซีดไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะอาจแอบเป็น “โรคโลหิตจาง” แบบที่คุณไม่เคยรู้ (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

รู้ลึก 5 ข้อ! แมวซีดไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะอาจแอบเป็น “โรคโลหิตจาง” แบบที่คุณไม่เคยรู้

ถ้าแมวของคุณดูเหนื่อยง่าย ตัวซีด ไม่ค่อยอยากเล่น หรือกินน้อยลง
บางทีไม่ใช่เพราะ "อากาศร้อน" หรือ "เบื่ออาหาร" แต่อาจเป็นเพราะเขากำลังป่วยเป็น ภาวะโลหิตจางในแมว (Anaemia in Cats) อยู่ก็ได้ครับ

ภาวะนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้แมวอ่อนแอ แต่ยังอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงซ่อนอยู่ข้างใน
วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้ลึกแบบเข้าใจง่าย พร้อมเคล็ดลับและเทคนิคที่จะช่วยให้แมวของคุณฟื้นตัวได้ทันก่อนจะสาย


1. โลหิตจางในแมวคืออะไร? ทำไมถึงเกิดขึ้นได้แบบไม่รู้ตัว

โลหิตจาง (Anaemia) คือภาวะที่แมวมีจำนวนเซลล์เม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติ ทำให้ร่างกายรับออกซิเจนได้น้อย
ส่งผลให้แมวเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย และดูไม่สดใส

ข้อมูลสำคัญ:

  • ระดับปกติของ Packed Cell Volume (PCV) หรือ Hematocrit ควรอยู่ที่ 25–45%

  • ถ้าต่ำกว่า 20% ถือว่าอยู่ในภาวะโลหิตจางระดับกลางถึงรุนแรง
    (อ้างอิงจาก Cornell University College of Veterinary Medicine, 2023)

ภาวะนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่:

  • Regenerative Anaemia (ร่างกายยังพยายามสร้างเม็ดเลือดใหม่อยู่)

  • Non-Regenerative Anaemia (ไขกระดูกไม่ผลิตเม็ดเลือดใหม่เพียงพอ)


2. สาเหตุอะไรที่ทำให้แมวโลหิตจางได้บ้าง?

แมวไม่ได้ซีดเพราะ "ง่วง" หรือ "นอนน้อย" แน่นอนครับ มีหลายสาเหตุที่ซ่อนอยู่ และบางอย่างอันตรายกว่าที่คิด

สาเหตุหลักของภาวะโลหิตจางในแมว:

  • การสูญเสียเลือด: อุบัติเหตุ, แผลภายใน, พยาธิในเลือด เช่น Mycoplasma haemofelis

  • ทำลายเม็ดเลือด: โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง (IMHA), การติดเชื้อไวรัส เช่น FIV, FeLV

  • การผลิตลดลง: ปัญหาที่ไขกระดูก, โรคไตเรื้อรัง (CRF), มะเร็ง

งานวิจัย Feline Anaemia Overview, 2021 พบว่า “กว่า 60% ของแมวโลหิตจางในคลินิกสัตว์ป่วยเรื้อรังมีโรคไตเป็นโรคร่วม”


3. แมวโลหิตจางมีอาการยังไง? ดูยังไงว่าไม่ใช่แค่น้องขี้เกียจ

เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ "เก็บอาการ" เก่งมาก อาการของโลหิตจางจึงมักไม่ชัดในระยะเริ่มต้น
แต่ถ้าเจ้าของสังเกตดีๆ จะเห็นความเปลี่ยนแปลงแบบนี้:

อาการที่ควรระวัง:

  • เหงือกซีดหรือสีชมพูจาง

  • ขอบตา ซีด (ลองเปิดเบาๆ ดูสีขาวใต้เปลือกตา)

  • หายใจถี่ หรือหอบง่าย

  • ไม่ค่อยกินอาหาร อ่อนแรง นอนมาก

  • ขนไม่เงา ดูโทรม

เทคนิค: ใช้นิ้วกดเหงือกเบาๆ แล้วปล่อย ถ้าเลือดไหลกลับช้าเกิน 2 วินาที อาจมีปัญหาเรื่องการไหลเวียนเลือด


4. รักษายังไง? ต้องถ่ายเลือดไหม? หรือมีวิธีอื่นที่ช่วยได้

แนวทางการรักษาขึ้นอยู่กับ สาเหตุของโรค ซึ่งอาจต่างกันไปในแต่ละแมว แต่เป้าหมายหลักคือ “แก้ที่ต้นเหตุ และฟื้นฟูร่างกายให้ไวที่สุด”

แนวทางการรักษาทั่วไป:

  • ให้ธาตุเหล็ก วิตามิน B12 และอาหารเสริมบำรุงเลือด

  • ใช้ยากระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด เช่น Erythropoietin (ในกรณีโรคไต)

  • ถ่ายเลือด (ในรายที่โลหิตจางรุนแรงหรือฉุกเฉิน)

  • รักษาสาเหตุหลัก เช่น ฆ่าพยาธิ, ควบคุมโรคไต, คีโมสำหรับมะเร็งบางชนิด

หมอสัตวแพทย์มักใช้ PCV ต่ำกว่า 15% เป็นเกณฑ์พิจารณา “ต้องถ่ายเลือดทันที”


5. แมวโลหิตจางต้องดูแลยังไงให้ฟื้นตัวไว และไม่กลับมาเป็นซ้ำ

การดูแลที่บ้านหลังการรักษาสำคัญมากครับ เพราะแมวที่เคยโลหิตจางจะมีภูมิคุ้มกันอ่อนลง และอ่อนแรงง่ายกว่าปกติ

เคล็ดลับการดูแลแมวโลหิตจาง:

  • ให้อาหารเสริมบำรุงเลือดที่มีธาตุเหล็ก

  • เลือกอาหารที่ย่อยง่ายและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง

  • หลีกเลี่ยงการใช้ทรายแมวที่มีฝุ่นเยอะ (ลดความเสี่ยงติดเชื้อ)

  • ดูแลสุขภาพช่องปาก เพราะฟันผุอาจนำเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดได้

  • ตรวจสุขภาพและเลือดทุก 3–6 เดือน หรือบ่อยกว่านั้นถ้าเคยมีอาการรุนแรง


แมวที่ดูเฉื่อยๆ ซีดๆ บางทีไม่ได้แค่นอนเยอะ แต่ร่างกายเขาอาจกำลังร้องขอออกซิเจนแบบที่เราไม่รู้ตัว
เข้าใจภาวะโลหิตจางให้มากขึ้น = ช่วยชีวิตเขาได้เร็วกว่าที่คิด

อย่ารอให้ซีดจนหมดแรง เพราะความเข้าใจของคุณอาจช่วยชีวิตแมวได้ทันเวลา


❝แมวซีด = สัญญาณเตือน ไม่ใช่แค่ขี้เกียจนอน❞


#แมวโลหิตจาง #ภาวะซีดในแมว #ดูแลแมวป่วย #แมวสุขภาพดี #CatAnaemia #Lazadogรู้ใจแมว


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts