เผย 5 ข้อมูลเชิงลึก! ตารางตรวจสุขภาพฟันแมวที่ทาสต้องเข้าใจ

แมวหน้าหวาน ยิ้มทีใจละลาย…
แต่รู้ไหมครับว่าข้างในปากน้องอาจจะไม่หวานเหมือนหน้าก็ได้!
เพราะปัญหาฟันของแมวไม่ใช่เรื่องเล็กเลย โดยเฉพาะกับแมวที่ไม่เคยได้รับการตรวจช่องปากอย่างถูกวิธี

วันนี้ผมจะพาคุณไปดู 5 ข้อมูลเชิงลึกจากตารางการตรวจสุขภาพฟันแมว (Dental Chart for Cats)
ที่จะทำให้คุณรู้ว่า “สุขภาพฟันแมว” สำคัญไม่แพ้สุขภาพหัวใจเลยครับ

1. มากกว่า 70% ของแมวอายุเกิน 3 ปี มีปัญหาโรคเหงือกหรือฟันโดยที่เจ้าของไม่รู้ตัว

อย่าเพิ่งตกใจครับ เพราะนี่คือเรื่องจริง!
แมวไม่บอกเราเวลาเจ็บฟัน ไม่บ่น ไม่ร้อง แต่จะ “หยุดกิน” หรือ “เคี้ยวเอียงข้าง” เงียบๆ แทน

ข้อมูลจาก American Veterinary Dental College (AVDC):

• 70% ของแมวอายุ 3 ปีขึ้นไปพบปัญหาฟันหรือเหงือก เช่น เหงือกอักเสบ หินปูน รากฟันละลาย

• โรคในช่องปากทำให้แมวเจ็บเวลารับประทานอาหาร ส่งผลถึงพฤติกรรมและสุขภาพโดยรวม

• หากไม่รักษา อาจลุกลามไปถึงหัวใจ ไต และตับได้

ข้อควรรู้: ยิ่งตรวจเร็ว ยิ่งแก้ไขได้ไว และลดความเจ็บปวดของน้องแมวแบบเงียบๆ ได้มากครับ

2. ตารางตรวจฟันแมวแบ่งเป็น 6 โซน และ 4 ระดับความรุนแรง ช่วยให้สัตวแพทย์วินิจฉัยแม่นยำยิ่งขึ้น

ไม่ใช่แค่ดูว่า “มีหินปูนไหม” เท่านั้น
การตรวจฟันแบบมืออาชีพจะมีการจดบันทึกเป็นระบบใน Dental Chart เพื่อเก็บข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของช่องปากแมวในแต่ละครั้ง

โครงสร้างตารางฟันที่ใช้ในคลินิก:

• แบ่งฟันออกเป็น 6 กลุ่ม (Quadrants): บนซ้าย/ขวา, ล่างซ้าย/ขวา

• มีการระบุรหัสฟันแต่ละซี่ เช่น 104 คือเขี้ยวขวาบน

• ระบุระดับความเสียหาย G0–G4 (จากเหงือกปกติถึงรุนแรง) และระดับหินปูน C0–C4

เคล็ดลับ: ถ้าพาแมวไปตรวจฟัน อย่าลืมขอตารางนี้จากคุณหมอเก็บไว้เพื่อเปรียบเทียบในการตรวจครั้งถัดไปครับ

3. ฟันแมวโตเต็มที่มี 30 ซี่ และ “เขี้ยว” คือด่านแรกที่มักมีปัญหาจากการหักหรือหินปูนสะสม

แมวมีฟันถาวร 30 ซี่ โดยเฉพาะเขี้ยวที่เด่นชัดเป็นจุดเสี่ยงหลัก
เพราะแมวมักใช้เขี้ยวขย้ำของเล่น แทะของแข็ง หรือกัดเชือกเล่น ทำให้เกิดความเสียหายโดยไม่รู้ตัว

ข้อมูลจาก Feline Dental Health Research Unit:

• 40% ของแมวที่มีปัญหาช่องปาก มีความเสียหายที่เขี้ยวเป็นอันดับแรก

• ฟันกรามหลัง (molars) มักมีหินปูนหนาเพราะเข้าถึงยาก

• ฟันหักในแมวส่วนใหญ่ไม่ได้มีเลือดออก แต่ส่งผลให้เหงือกอักเสบเรื้อรัง

ข้อควรรู้: ใช้ของเล่นยางนิ่มหรือขนมขัดฟันสำหรับแมวเพื่อลดโอกาสเขี้ยวหักหรือสึกได้ครับ

4. แมวที่ตรวจและขูดหินปูนปีละครั้ง มีโอกาสเกิดโรคเหงือกลดลงถึง 60%

นี่คือข้อมูลที่เปลี่ยนชีวิตแมวมาแล้วหลายบ้าน
เพราะแค่พาน้องไปขูดหินปูนปีละครั้ง ก็ช่วยให้ช่องปากแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สถิติจาก Veterinary Dental Society:

• การขูดหินปูนแมวเป็นประจำ ช่วยลดโอกาสเป็นโรคปริทันต์ (เหงือกอักเสบ) ได้ถึง 60%

• ช่วยลดกลิ่นปาก และเพิ่มความสามารถในการเคี้ยวอาหารเม็ด

• ฟื้นตัวภายใน 1–2 วัน และควรทำโดยใช้ยาสลบภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์

เคล็ดลับ: หลังขูดหินปูน อย่าลืมใช้เจลทำความสะอาดฟันแมว หรือแปรงฟันเบาๆ สัปดาห์ละ 1–2 ครั้งเพื่อคงผลลัพธ์ได้นานขึ้นครับ

5. กลิ่นปากของแมวอาจเป็นสัญญาณแรกของโรคภายใน เช่น เบาหวานหรือไตวาย

ถ้าแมวหาวแล้วคุณต้องเบือนหน้าหนี…
นั่นอาจไม่ใช่แค่กลิ่นอาหารแมวครับ แต่เป็น “สัญญาณทางการแพทย์” ที่บอกว่าในร่างกายน้องมีบางอย่างผิดปกติ

ข้อมูลจาก AAHA Feline Health Guidelines:

• กลิ่นปากหวาน = อาจเป็นเบาหวาน

• กลิ่นปากเหม็นคาวคล้ายแอมโมเนีย = อาจมีปัญหาไต

• กลิ่นปากรุนแรงร่วมกับเลือดหรือฟองน้ำลาย = อาจมีหนองหรือเนื้องอกในช่องปาก

ข้อควรรู้: อย่ามองข้ามกลิ่นปากแมว เพราะบางทีอาจเป็นสัญญาณสำคัญที่ช่วยให้คุณช่วยชีวิตเขาได้ทันเวลา

แมวของคุณอาจยิ้มเก่ง แต่นั่นไม่ได้แปลว่าฟันเขาแข็งแรง
การเข้าใจ “ตารางตรวจสุขภาพฟัน” จะช่วยให้คุณและสัตวแพทย์ติดตามการเปลี่ยนแปลงในช่องปากแมวได้แม่นยำ
เพราะสุขภาพฟันที่ดี = สุขภาพกายที่แข็งแรง = แมวแฮปปี้แบบยาวๆ ครับ

#ตรวจฟันแมวไม่ใช่เรื่องเล่น #แมวยิ้มหวานฟันต้องแข็งแรง #สุขภาพช่องปากแมวสำคัญกว่าที่คิด #แมวมีกลิ่นปากต้องไม่เมิน #Lazadogใส่ใจฟันน้องแมวทุกซี่

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com