เผย 5 ข้อมูลเชิงลึก! ปัญหาผิวหนังในแมว ที่ไม่ได้แค่คัน แต่อาจซ่อนโรคร้ายไว้มากกว่าที่คุณคิด

แมวเกา...ไม่ใช่แค่เพราะยุงกัด
ขนร่วง...ไม่ได้แปลว่าผลัดขนตามฤดูเสมอ
ผิวหนังแมวคือด่านแรกของภูมิคุ้มกัน และยังเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าถึง “โรคภายใน” ที่เราอาจมองข้าม

วันนี้ผมจะพาคุณไปเจาะลึก 5 ข้อมูลสำคัญจากแนวทาง Cat-Friendly Dermatological Examination
โดย International Cat Care (iCatCare) ที่ทำให้การตรวจผิวหนังแมวไม่ใช่เรื่องผ่านๆ อีกต่อไป
เพราะ “คัน” อาจไม่ธรรมดา และ “แผลเล็กๆ” อาจไม่เล็กอย่างที่คิดครับ

1. มากกว่า 60% ของปัญหาผิวหนังในแมวเกิดจาก “ปัจจัยภายใน” ไม่ใช่ภายนอก

หลายคนคิดว่าแมวคัน = เห็บ หมัด หรือแพ้อากาศ
แต่จริงๆ แล้ว “ต้นตอของปัญหา” มักลึกกว่านั้น และบางครั้งเกี่ยวกับ “ภูมิคุ้มกัน ระบบย่อย หรือฮอร์โมน”

ข้อมูลจาก Feline Dermatology Diagnostic Review (ISFM):

• 62% ของแมวที่มีอาการคันเรื้อรัง ไม่พบเห็บหมัดหรือการติดเชื้อภายนอก

• 29% พบความผิดปกติของระบบย่อยอาหารร่วมด้วย

• 14% เกี่ยวข้องกับปัญหาต่อมไทรอยด์หรือภูมิแพ้ภายในร่างกาย

ข้อควรรู้: ถ้าแมวมีอาการคัน ขนร่วง หรือเลียตัวจนแดง ควรตรวจเลือดหรืออัลตราซาวด์ควบคู่กับการตรวจผิวหนัง เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริง

2. “การเลียตัวซ้ำๆ” ในแมวไม่ใช่พฤติกรรมปกติเสมอไป แต่อาจเป็นสัญญาณของความเครียดหรือเจ็บป่วย

แมวเลียตัวเป็นนิสัยก็จริง แต่การเลีย “จุดเดิมซ้ำๆ” โดยเฉพาะบริเวณท้อง โคนหาง หรือขาหลัง อาจเป็นมากกว่าความสะอาด

จาก Feline Overgrooming Syndrome Report:

• 40% ของแมวที่เลียตัวมากผิดปกติ มีภาวะเครียดเรื้อรังหรือการเจ็บป่วยที่ตรวจไม่พบด้วยตาเปล่า

• อาการเลียมักเกิดในเวลากลางคืนหรือเมื่ออยู่ลำพัง

• แมวที่มีแผลจากการเลียเอง มักไม่รู้ตัวว่ากำลังทำร้ายตัวเองจากความเครียด

เทคนิค: หากเห็นแมวเลียตัวจนขนร่วงหรือเป็นแผล ให้สังเกตช่วงเวลาที่เกิดขึ้น และพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อประเมินทั้งด้านร่างกายและพฤติกรรม

3. การตรวจผิวหนังแมวควรใช้แสง สี และพื้นผิวที่เหมาะสม เพื่อให้วินิจฉัยได้แม่นยำ

การตรวจผิวหนังแมวไม่ใช่แค่ “ดูแล้วเดา”
แต่ต้องอาศัยเทคนิคการจัดแสง การพลิกขน และการใช้เครื่องมือเฉพาะ เช่น ไมโครสโคปหรือแสง UV

แนวทางจาก Cat Friendly Dermatological Environment:

• แสงธรรมชาติ + พื้นโต๊ะสีขาว หรือสีเทาอ่อน ช่วยให้เห็นรอยโรคได้ชัดขึ้นถึง 35%

• ใช้หวีสางขนเพื่อแยกขนและตรวจหารอยแดง/สะเก็ดซ่อน

• กล้องขยาย 10–20 เท่าช่วยให้เห็นไรขน เห็บ หรือเชื้อราระดับจุดเล็กๆ ที่ตาเปล่ามองไม่เห็น

เคล็ดลับ: คลินิกที่มีโซนตรวจผิวหนังเฉพาะ และปรับแสงแบบ Cat Friendly จะช่วยให้ตรวจแมวได้ง่ายขึ้นโดยที่แมวไม่ต้องเครียดมาก

4. แมวมีโอกาสเป็นโรคผิวหนังจาก “อาหาร” สูงกว่าที่คิด

ไม่ใช่แค่คนครับที่แพ้กุ้ง หมู หรือกลูเตน
แมวเองก็อาจมีภูมิแพ้อาหารซ่อนอยู่ และแสดงออกผ่านผิวหนังแทนที่จะมีอาการท้องเสียหรืออาเจียน

จาก Feline Food Allergy Case Review:

• 21% ของปัญหาผิวหนังในแมวมีสาเหตุจากอาหาร

• อาการที่พบบ่อย: ขนร่วงเป็นหย่อมๆ คันหู คาง หรือรอบตา

• แมวที่แพ้อาหารมักไม่ตอบสนองต่อยาลดอักเสบทั่วไป

เทคนิค: ลองเปลี่ยนอาหารเป็นสูตร hypoallergenic โดยมีสัตวแพทย์ควบคุม และหลีกเลี่ยงการให้อาหารเสริม หรือขนมที่มีส่วนผสมไม่แน่ชัด

5. การตรวจผิวหนังแบบ Cat Friendly ช่วยลดความเครียดของแมวระหว่างตรวจได้ถึง 58%

แมวไม่ชอบถูกจับ ไม่ชอบถูกพลิกตัว
แต่ถ้าเรารู้วิธี “ตรวจแบบแมวสบายใจ” ผลลัพธ์จะเปลี่ยนไปเลยครับ

ข้อมูลจาก Cat Friendly Dermatology Handling Study:

• การตรวจบนพื้นผิวอุ่น (เช่น ผ้าห่มหรือแผ่นรองนิ่ม) ลดพฤติกรรมก้าวร้าวแมวได้ 43%

• ใช้ผ้าคลุมหัว หรือให้แมวอยู่ในกล่องเปิดฝา ช่วยให้น้องรู้สึกคุมสถานการณ์ได้

• หากแมวเครียดมาก ควรแบ่งการตรวจออกเป็น 2 รอบแทนที่จะตรวจทีเดียวจบ

ข้อควรรู้: คลินิกที่เข้าใจพฤติกรรมแมว จะรู้วิธีตรวจโดยไม่รบกวนความรู้สึกของแมวเกินไป ทำให้การวินิจฉัยแม่นยำและแมวร่วมมือมากขึ้น

ผิวหนังแมวไม่ใช่แค่สิ่งห่อหุ้มร่างกาย
แต่มันคือ “หน้าต่างสื่อสารของสุขภาพภายใน”
อย่ารอให้ขนร่วงเป็นหย่อม แผลแดง หรือเลียไม่หยุดก่อนค่อยพาไปหาหมอ
เริ่มจากการเข้าใจสัญญาณเล็กๆ และตรวจผิวหนังอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แมวของคุณมีสุขภาพทั้งภายนอกและภายในที่ดีไปอีกนานครับ

#แมวคันอย่าชะล่าใจ #ผิวหนังแมวคือภาพสะท้อนสุขภาพ #ตรวจแมวให้ครบแม้แต่ขน #CatFriendlyตรวจผิวแบบน้องไม่เครียด #Lazadogเข้าใจแมวทุกจุด

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com