เผย 5 ข้อมูลเชิงลึก! ประเมินสุขภาพแมวอย่างไรให้รู้ทันโรคก่อนจะสายเกินไป (อัปเดท 2025)

Apr 18, 2025
การรับเลี้ยงและการดูแล
เผย 5 ข้อมูลเชิงลึก! ประเมินสุขภาพแมวอย่างไรให้รู้ทันโรคก่อนจะสายเกินไป (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

เผย 5 ข้อมูลเชิงลึก! ประเมินสุขภาพแมวอย่างไรให้รู้ทันโรคก่อนจะสายเกินไป

เคยไหมครับ…อยู่กับแมวทุกวันแต่ไม่รู้เลยว่าน้องกำลังป่วย
จนวันหนึ่งอาการหนักแล้วถึงจะรู้ว่า “แมวไม่สบายมานานแล้ว”
นี่แหละครับคือปัญหาใหญ่ของเจ้าของแมวส่วนมาก — เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ “ไม่พูด ไม่ฟ้อง ไม่ฟูมฟาย”
มันจึงสำคัญมากที่เราต้อง “รู้จักประเมินสุขภาพแมวด้วยตัวเอง” อย่างมีระบบ

วันนี้ผมจะพาคุณไปเจาะลึก 5 ข้อมูลเชิงลึกจากแนวทาง Cat Health Assessment ที่จะเปลี่ยนวิธีสังเกตแมวของคุณไปตลอดกาล
ดูง่าย ทำได้จริง และช่วยให้คุณดูแลแมวได้เหมือนคุณหมอ (แบบใจดี) เลยครับ


1. 64% ของโรคในแมวเริ่มต้นโดยไม่มีอาการ “ภายนอก” ชัดเจน

แมวไม่ใช่ประเภท “ป่วยแล้ววิ่งมาอ้อน” ครับ
ตรงกันข้ามเลย…แมวส่วนใหญ่จะพยายาม “กลบเกลื่อน” ความเจ็บปวดให้มากที่สุด

ข้อมูลจาก International Society of Feline Medicine (ISFM):

  • 64% ของกรณีแมวป่วยที่พบในคลินิกมักเริ่มต้นจากอาการที่เจ้าของ “ไม่ทันสังเกต” เช่น กินน้อยลงนิดเดียว หรือซึมนิดหน่อย

  • 42% ของโรคเรื้อรังในแมว เช่น โรคไต หรือเบาหวาน ถูกตรวจพบเมื่อเข้าสู่ระยะกลางถึงปลาย

  • 1 ใน 5 ของแมวที่มีพฤติกรรม “ซึมเงียบผิดปกติ” จริงๆ แล้วกำลังมีความเจ็บระดับกลางถึงรุนแรง

ข้อควรรู้: ถ้าแมวเริ่ม “นิ่งผิดปกติ” แม้เพียงเล็กน้อย อย่าชะล่าใจครับ
เริ่มต้นด้วยการบันทึกพฤติกรรมประจำวัน และใช้แบบฟอร์มประเมินสุขภาพพื้นฐานช่วยดูแนวโน้ม


2. การชั่งน้ำหนักแมวทุกเดือนช่วยพบความผิดปกติได้ก่อนแสดงอาการถึง 3 สัปดาห์

แมวไม่ได้มีระบบเตือนอัตโนมัติเหมือนนาฬิกา smartwatch ครับ
แต่สิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดก็คือ “ตัวเลขน้ำหนัก” นี่แหละ

ข้อมูลจาก Royal Veterinary College, UK:

  • การลดน้ำหนักมากกว่า 5% ภายใน 1 เดือน อาจเป็นสัญญาณของโรคไต ตับ หรือมะเร็ง

  • การเพิ่มน้ำหนักมากกว่า 7% ภายใน 4 สัปดาห์ มักสัมพันธ์กับภาวะไทรอยด์ต่ำ หรือโรคเบาหวาน

  • น้ำหนักที่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่ต่อเนื่องบ่งชี้ “ความผิดปกติแบบเรื้อรัง” ได้แม่นกว่าการสังเกตด้วยตาเปล่า

เคล็ดลับ:

  • ใช้ตาชั่งดิจิทัลชั่งแมวเดือนละครั้ง

  • บันทึกน้ำหนักในสมุดหรือแอปสุขภาพแมว

  • หากมีแนวโน้มลดหรือเพิ่มเกิน 5% ติดต่อสัตวแพทย์ทันที


3. การตรวจฟันและช่องปากเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจในแมวได้ถึง 39%

แมวก็เหมือนคนครับ…สุขภาพฟันดี ส่งผลถึงสุขภาพหัวใจ
โรคเหงือกที่ปล่อยไว้เรื้อรังอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือดและกระทบต่ออวัยวะสำคัญได้

งานวิจัยจาก Feline Dental Health Research Group:

  • แมวที่ไม่ได้ตรวจฟันเลยมีแนวโน้มเกิดภาวะเหงือกอักเสบเรื้อรังสูงถึง 74% ภายในอายุ 5 ปี

  • โรคเหงือกมีความสัมพันธ์ทางสถิติกับโรคหัวใจในแมวมากถึง 39%

  • อาการเบื้องต้นคือ กลิ่นปาก, ไม่กินอาหารแข็ง, หรือเลียปากบ่อยผิดปกติ

เทคนิค:

  • ใช้ผ้าก๊อซหรือแปรงซิลิโคนสำหรับแมวเช็ดฟันอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง

  • ตรวจสภาพเหงือกทุกเดือน (เหงือกควรเป็นสีชมพู ไม่แดง ไม่บวม)


4. การเปลี่ยนแปลงของขนและผิวหนังบ่งชี้ปัญหาสุขภาพภายในในแมวได้กว่า 50%

อย่ามองว่าขนร่วงคือเรื่องปกติครับ เพราะจริงๆ แล้วมันอาจเป็น “เสียงจากภายใน” ของร่างกายแมว

ข้อมูลจาก Cat Dermatology Study – ISFM:

  • 53% ของแมวที่มีโรคในระบบตับ ไต หรือไทรอยด์ แสดงอาการผ่าน “ขน” และ “ผิวหนัง” ก่อน

  • แมวที่เครียดเรื้อรังมักเลียขนตัวเองมากเกินไปจนเกิด “จุดขนบาง” หรือ “ผิวหนังอักเสบ”

  • ขนที่เปลี่ยนเป็นมันเยิ้มหรือหยาบกระด้าง อาจสะท้อนถึงภาวะขาดสารอาหารหรือโรคในระบบเผาผลาญ

ข้อควรรู้:

  • สังเกตขนบริเวณหลัง, ข้างลำตัว, และท้อง เป็นจุดที่แมวมักเลียเวลามีความเครียด

  • หากพบจุดขนบางผิดปกติ ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยต้นเหตุให้ชัดเจน


5. แมวสูงวัยควรประเมินสุขภาพแบบ “ละเอียด” ทุก 6 เดือน ไม่ใช่แค่ปีละครั้ง

แมวอายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไปเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยกลางคนถึงสูงอายุ
การรอปีละครั้งอาจไม่พอในการตรวจโรคที่ “คืบคลานเงียบๆ” อย่างโรคไตหรือความดันสูง

จาก AAFP Senior Cat Care Guidelines:

  • 68% ของแมวอายุ 10 ปีขึ้นไป มีปัญหาสุขภาพแฝงแต่ยังไม่แสดงอาการ

  • การตรวจสุขภาพทุก 6 เดือนช่วยลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเรื้อรังได้ถึง 42%

  • การวัดค่าความดัน, ตรวจเลือด, ปัสสาวะ และฟัน เป็นสิ่งที่ควรทำประจำในแมวสูงวัย

เคล็ดลับ:

  • สร้างตารางตรวจสุขภาพ 6 เดือนครั้ง โดยเลือกช่วงที่แมวสบายใจ เช่น หลังฤดูฝนหรือช่วงอากาศไม่ร้อน

  • เลือกคลินิกที่เข้าใจแมว และมีแนวทาง Cat Friendly เพื่อลดความเครียด


แมวอาจไม่ร้องบอกว่าเจ็บ
แต่ถ้าเรารู้จักสังเกตและประเมินสุขภาพอย่างถูกวิธี
คุณจะช่วยให้แมวมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น สุขภาพดีขึ้น และหลีกเลี่ยงโรคเรื้อรังได้มากกว่าที่คิด

สุขภาพที่ดีเริ่มจากการสังเกตเล็กๆ ที่เราทำได้ทุกวันครับ
แมวพูดไม่ได้ แต่ “ตัวเลข น้ำหนัก ขน สีเหงือก และพฤติกรรม” พูดแทนเขาได้เสมอ


#ประเมินสุขภาพแมวแบบมือโปร #แมวสุขภาพดีเริ่มที่บ้าน #สังเกตแมวให้เป็น #สุขภาพแมวสำคัญกว่าเสื้อแมว #Lazadogใส่ใจแมวทุกวัน


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts