เผย 5 ข้อมูลเชิงลึก! หาน้องแมวมาเลี้ยงจากที่ไหนได้บ้าง (ให้ได้แมวที่ใช่ และหัวใจไม่พัง)

“อยากเลี้ยงแมว… เริ่มจากตรงไหนดี?”
เป็นคำถามที่ฟังดูง่าย แต่เอาเข้าจริงแล้ว หลายคนเลือกผิดทางตั้งแต่เริ่ม เพราะมองแค่ความน่ารัก แต่ลืมดู "แหล่งที่มาของแมว"

ซึ่งความจริงแล้ว...
การเลือกว่าจะรับแมวจากที่ไหน เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดที่จะกำหนดทั้งสุขภาพ พฤติกรรม และความสุขระยะยาวของทั้งแมวและเจ้าของเลยครับ

วันนี้ผมจะพาไปรู้จัก 5 ทางเลือกยอดฮิตในการหาน้องแมว พร้อมข้อดี-ข้อควรระวัง และเคล็ดลับที่คุณต้องรู้ก่อนจะรับแมวเข้าบ้าน!

1. รับเลี้ยงแมวจากศูนย์พักพิง – ตัวเลือกหัวใจใหญ่ที่ช่วยแมวและโลกไปพร้อมกัน

ศูนย์พักพิงสัตว์หรือกลุ่มช่วยเหลือแมวจร (เช่น มูลนิธิรักษ์แมว Cat Republic, The Voice Foundation, SOS Cat Thailand) คือแหล่งที่มีแมวทุกวัยให้เลือก ทั้งลูกแมว แมวโต แมวพิเศษ (เช่น พิการ หรือมีประวัติรอดตาย)

ข้อดี:

• ช่วยลดจำนวนแมวจรในระบบ

• ได้แมวที่ผ่านการตรวจสุขภาพ ทำหมัน และวัคซีนมาแล้ว

• เจ้าหน้าที่ช่วยประเมินพฤติกรรมแมวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คุณ

ข้อควรรู้:

• แมวบางตัวอาจมีอดีตที่ต้องการเวลาในการปรับตัว

• คุณต้องเซ็นสัญญา และอาจมีการสัมภาษณ์เพื่อประเมินความพร้อมของบ้าน

ข้อมูลจาก iCatCare:

"การรับเลี้ยงแมวจากศูนย์พักพิงคือการช่วยแมว 2 ตัวพร้อมกัน — ตัวที่คุณรับเลี้ยง และตัวต่อไปที่จะได้เข้ามาแทนที่ในศูนย์"

2. รับแมวจากเจ้าของเดิมที่หาบ้าน – ทางเลือกที่ต้องใช้ “สายตาแห่งความจริงใจ”

หลายครั้งที่เราพบแมวน่ารักผ่านโพสต์ในกลุ่ม Facebook เช่น “แมวหาบ้าน” หรือ “แจกแมวฟรี”
เจ้าของอาจมีเหตุผลจำเป็น เช่น ย้ายบ้าน มีสมาชิกในบ้านแพ้ หรือแมวคลอดลูกไม่ทันตั้งตัว

ข้อดี:

• แมวอาจคุ้นกับการอยู่บ้านแล้ว

• ได้ข้อมูลประวัติแมวค่อนข้างชัดเจน

ข้อควรรู้:

• ตรวจสอบว่าเจ้าของเดิมให้แมวเพราะจำเป็นจริง ไม่ใช่ฟาร์มแมวแฝง

• ขอหลักฐานการทำวัคซีน หรือข้อมูลสุขภาพ ถ้ามี

• หลีกเลี่ยงการรับแมวจากโพสต์ลักษณะเร่งเร้า เช่น “วันนี้เท่านั้น”, “ขอค่ามัดจำ”, หรือไม่เปิดเผยที่มา

3. หาจากฟาร์มแมวมืออาชีพ – ถ้าอยากได้สายพันธุ์เฉพาะ ต้องเลือกให้เป๊ะ

ใครที่มองหาแมวพันธุ์ เช่น สก็อตติช โฟลด์, เมนคูน, เบงกอล หรือเปอร์เซีย ฟาร์มแมวคือคำตอบ
แต่ต้องระวัง เพราะในไทยมีทั้งฟาร์มที่ดีจริง และฟาร์มที่หวังแค่ “ยอดขาย” โดยไม่คำนึงถึงสวัสดิภาพแมว

เคล็ดลับการเลือกฟาร์ม:

• ตรวจสอบทะเบียนฟาร์ม (เช่น ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์)

• ฟาร์มต้องมีพื้นที่กว้างขวาง สะอาด ไม่ขังแม่แมวในกรง

• ถามเรื่องวัคซีน การถ่ายพยาธิ และการดูแลลูกแมวในช่วง 2 เดือนแรก

• ฟาร์มที่ดีจะไม่ยอมให้ลูกแม้ออกจากฟาร์มก่อนอายุ 8 สัปดาห์

ข้อมูลจาก CFA (Cat Fanciers’ Association):

"ลูกแมวที่ถูกแยกจากแม่ก่อนวัยอันควร มีแนวโน้มเกิดปัญหาพฤติกรรม เช่น ความก้าวร้าว หรือไม่สามารถใช้กระบะได้"

4. เจอแมวเองตามท้องถนน – ถ้าหัวใจเรียกร้อง…ต้องเตรียมตัวให้ดี

บางครั้งแมวก็เลือกเราก่อนครับ… เดินเข้ามาหา ตีหน้าขอความรัก หรือแม้แต่นอนรอหน้าบ้านทุกวัน

สิ่งที่ต้องทำ:

• พาไปตรวจสุขภาพเบื้องต้นที่คลินิกสัตวแพทย์

• สังเกตว่ามีปลอกคอหรือรอยสักไหม (อาจเป็นแมวหลงบ้าน)

• หากไม่มีเจ้าของ สามารถทำหมัน วัคซีน และค่อยๆ ปรับตัวให้แมวอยู่ในบ้านได้

ข้อควรรู้:

• แมวที่อยู่ข้างถนนอาจมีพยาธิ หรือโรคติดต่อจากแมวจร เช่น หวัดแมว, FeLV, FIV

• ให้แมวอยู่ในพื้นที่กักกันแยกจากสัตว์เลี้ยงตัวอื่นก่อน 14 วัน

5. แมวผ่านการ “ฝากต่อรุ่น” จากแมวบ้านที่คุณรู้จัก

แมวบ้านที่คุณเพื่อนคลอดลูก แล้วฝากต่อมาให้เลี้ยง เป็นอีกทางเลือกที่น่ารักและน่าเชื่อถือ

ข้อดี:

• รู้ต้นสายปลายทางแมวชัดเจน

• คุณสามารถติดตามสุขภาพแมวพ่อแม่ได้

• ได้แมวที่ผ่านการเลี้ยงแบบอบอุ่น

ข้อควรรู้:

• ควรทำหมันพ่อแม่แมวหลังจากนี้ เพื่อไม่ให้แมวขยายพันธุ์ต่อเนื่อง

• ตรวจสุขภาพลูกแมวก่อนรับเลี้ยง เช่น การถ่ายพยาธิ วัคซีนเข็มแรก

แมวไม่ใช่ของเล่น และการรับแมวมาเลี้ยงไม่ใช่แค่การเลือกจากความน่ารัก
แต่คือการเลือก “เส้นทางชีวิต” ร่วมกันทั้งเราและแมวในอีกหลายปีข้างหน้า

ยิ่งรู้ที่มาแมวชัดเจน = ยิ่งดูแลได้ตรงจุด
และไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหน แค่ตั้งใจ เรียนรู้ และพร้อมรับผิดชอบ คุณก็เป็นทาสที่แมวคู่ควรแล้วครับ

#หาแมวอย่างมีสติ #รับแมวมาเลี้ยงต้องดูให้ดี #แมวบ้านหรือแมวจรเลือกยังไงดี #Lazadogชวนดูที่มาแมวก่อนรับเลี้ยง #ทาสแมวต้องรู้

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com