เผย 5 ข้อมูลเชิงลึก! แมวฉี่ไม่ออก = ภาวะอันตรายถึงชีวิต (ที่เจ้าของต้องสังเกตให้ทันก่อนจะสายเกินไป)
แมวไม่ฉี่... ฟังดูอาจเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่
แต่สำหรับสัตวแพทย์และทาสแมวทั่วโลก นี่คือ “ภาวะฉุกเฉินอันดับต้นๆ” ที่ต้องรีบพาไปหาหมอให้ไวที่สุด!
ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึง "ภาวะท่อปัสสาวะอุดตันในแมว" (Urethral Obstruction)
หรือที่คนในวงการเรียกกันติดปากว่า “แมวฉี่ไม่ออก” นั่นเอง
อาการนี้อาจเริ่มจากแมวเดินเข้ากระบะบ่อย ขุดแล้วขุดอีกแต่ไม่ฉี่
ร้องเวลานั่งฉี่ หรือเริ่มซึม เบื่ออาหาร
และถ้าเจ้าของไม่รู้ว่าอาการเหล่านี้คือ “สัญญาณเตือนภัย” อาจทำให้แมวเสียชีวิตได้ภายใน 24–48 ชั่วโมงเลยครับ!
วันนี้เรามาเจาะลึกแบบเข้าใจง่ายว่า ภาวะนี้คืออะไร เกิดจากอะไร สังเกตยังไง และป้องกันได้ไหม
เพื่อให้คุณเป็นทาสที่ไม่พลาดกับเรื่องใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งของสุขภาพแมวครับ
ท่อปัสสาวะอุดตัน (Urethral Obstruction) คือภาวะที่ ทางเดินปัสสาวะส่วนปลายของแมวถูกปิดกั้น
ทำให้แมวไม่สามารถฉี่ออกได้ตามปกติ → กระเพาะปัสสาวะขยายตัวผิดปกติ → เกิดการคั่งของของเสียในร่างกาย
ก้อนนิ่วหรือคริสตัลในปัสสาวะ
การอักเสบหรือบวมในท่อปัสสาวะ
พฤติกรรมกลั้นฉี่เรื้อรัง (เช่น เครียดจากเปลี่ยนบ้าน)
ปัสสาวะข้นจากการดื่มน้ำน้อย หรืออาหารที่มีแร่ธาตุสูงเกินไป
ข้อมูลจาก Cornell University College of Veterinary Medicine:
“กว่า 90% ของเคสที่เจอภาวะท่อปัสสาวะอุดตันเป็นแมวเพศผู้ที่อายุ 1–8 ปี”
“ภาวะนี้สามารถทำให้แมวเสียชีวิตจากภาวะไตวายเฉียบพลัน ภายใน 48 ชั่วโมง” – ข้อมูลจาก British Veterinary Association
เข้ากระบะบ่อย แต่ไม่มีปัสสาวะ
นั่งท่าฉี่นานผิดปกติ หรือร้อง
พฤติกรรมเปลี่ยน: ซึม หลบมุม เดินช้า
ท้องแข็งเมื่อจับ
อาเจียน หรือหยุดกินอาหาร
ข้อควรรู้:
หากพบแมวมีอาการเหล่านี้ อย่ารอ 1 วัน!
รีบพาไปคลินิกสัตว์ทันที เพราะทุกนาทีคือความเสี่ยงของไตและหัวใจ
แมวเพศผู้มีท่อปัสสาวะเล็กและยาวกว่าตัวเมีย
ทำให้มีความเสี่ยงมากกว่าโดยธรรมชาติ
โดยเฉพาะพันธุ์ที่มีโอกาสเกิดนิ่วมาก เช่น:
เปอร์เซีย
อเมริกันช็อตแฮร์
บริติช ช็อตแฮร์
สก็อตติช โฟลด์
และสิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ...
“อาหารแมวสูตรเม็ดที่มีแร่ธาตุฟอสฟอรัสหรือแมกนีเซียมสูง อาจกระตุ้นให้เกิดนิ่วได้ในแมวที่ดื่มน้ำน้อย”
ให้อาหารเปียกเสริม เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในร่างกาย
ใช้น้ำพุแมวกระตุ้นให้ดื่มน้ำมากขึ้น
ตรวจค่า pH ปัสสาวะทุกปี (หากแมวเคยมีนิ่ว)
เมื่อแมวถูกวินิจฉัยว่าท่อปัสสาวะอุดตัน
สัตวแพทย์จะ:
เจาะกระเพาะปัสสาวะเพื่อลดแรงดัน (หากแมวอาการวิกฤต)
ใส่สายสวน (Catheter) เพื่อเปิดท่อปัสสาวะ
ให้น้ำเกลือเพื่อชะล้างของเสีย
ตรวจเลือดเช็กค่าของเสียในไต
เปลี่ยนอาหารเป็นสูตรป้องกันนิ่วโดยเฉพาะ
ข้อควรรู้:
การรักษาต้องทำที่โรงพยาบาลสัตว์เท่านั้น และมักใช้เวลาอย่างน้อย 2–5 วันในการดูแลแบบใกล้ชิด
แมวที่เคยเป็นภาวะนี้แล้ว มีโอกาส “กลับมาเป็นซ้ำ” ได้ถึง 50% ภายใน 6 เดือน หากไม่มีการป้องกันที่เหมาะสม
ให้น้ำเพียงพอ: น้ำพุแมว / จานน้ำหลายจุด / อาหารเปียก
ลดความเครียด: บ้านสงบ กิจวัตรประจำวันคงที่
กระบะทรายสะอาดเสมอ และวางในจุดเงียบสงบ
ตรวจสุขภาพทางเดินปัสสาวะปีละ 1 ครั้ง
งานวิจัยจาก Journal of Feline Medicine and Surgery:
“แมวที่ได้รับการปรับพฤติกรรมและโภชนาการหลังการอุดตัน มีโอกาสรอดและไม่กลับมาเป็นซ้ำถึง 80%”
แมวฉี่ไม่ออก... ไม่ใช่เรื่องเล็ก
แต่คือ “ภัยเงียบที่อันตรายที่สุดอันดับต้นๆ” สำหรับแมวทุกตัว โดยเฉพาะเพศผู้
การสังเกตแมวในทุกๆ วัน
การพาไปตรวจสุขภาพประจำปี
และการให้น้ำ-อาหารที่เหมาะสม
คือ 3 สิ่งที่ช่วยยืดอายุแมวที่คุณรักได้อย่างมีนัยสำคัญ
อย่ารอให้แมวซึมก่อน แล้วค่อยพาไปหาหมอครับ
เพราะแมวที่ฉี่ไม่ออก อาจไม่มีโอกาสแก้ตัวครั้งที่สอง
#แมวฉี่ไม่ออกอันตรายมาก #ท่อปัสสาวะอุดตันแมว #ป้องกันแมวเกิดนิ่ว #Lazadogห่วงแมวทุกระบบ #ดูแลแมวให้ฉี่ได้ดี
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com