เผย 5 ข้อมูลเชิงลึก! ถอดรหัสพฤติกรรมแมวในโรงพยาบาล ด้วยChartดูแลที่แมวและหมอเข้าใจกันได้ (อัปเดท 2025)

Apr 19, 2025
healthy สุขภาพ
เผย 5 ข้อมูลเชิงลึก! ถอดรหัสพฤติกรรมแมวในโรงพยาบาล ด้วยChartดูแลที่แมวและหมอเข้าใจกันได้ (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

เผย 5 ข้อมูลเชิงลึก! ถอดรหัสพฤติกรรมแมวในโรงพยาบาล ด้วยChartดูแลที่แมวและหมอเข้าใจกันได้

คุณรู้ไหมครับว่า แมวเวลาแอดมิทในโรงพยาบาล
ไม่ได้กังวลว่า “หมอจะวินิจฉัยโรคถูกไหม”
แต่เขากังวลว่า “ตรงนี้ปลอดภัยรึเปล่า ใครเดินผ่านมา ทำไมกลิ่นแปลก และนั่นเสียงหมารึเปล่า?”

นั่นคือเหตุผลที่ International Cat Care (iCatCare) พัฒนา Hospitalisation Chart
หรือ “แผนภูมิประเมินพฤติกรรมและการตอบสนองของแมวขณะนอนโรงพยาบาล”
เพื่อให้ทีมสัตวแพทย์และเจ้าของเข้าใจสิ่งที่แมวกำลัง “พูดผ่านพฤติกรรม” ได้แบบแม่นยำ

วันนี้ผมจะพาคุณเจาะลึก 5 ข้อมูลสำคัญจากแผนภูมินี้ ที่อาจทำให้คุณเปลี่ยนวิธีดูแลแมวในช่วงวิกฤตไปตลอดชีวิตครับ


1. แมวที่ถูกประเมินพฤติกรรมทุกวัน มีโอกาสฟื้นตัวเร็วขึ้น 35% และกลับบ้านไวขึ้นเฉลี่ย 2 วัน

ใครว่าแมวแอดมิทแล้วแค่รอดูอาการ? ความจริงคือ “การประเมินพฤติกรรมรายวัน” มีผลโดยตรงต่อสุขภาพโดยรวม

ข้อมูลจาก Feline Hospitalisation Outcomes Study (ISFM):

  • แมวที่ได้รับการประเมินอารมณ์และพฤติกรรมอย่างเป็นระบบ จะฟื้นตัวเร็วขึ้นเฉลี่ย 35%

  • อัตราการกินอาหารกลับสู่ปกติใน 48 ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 2 เท่า

  • ความร่วมมือในการตรวจรักษาดีขึ้นในแมวที่ได้รับการดูแลด้าน “ใจ” ควบคู่กับ “กาย”

ข้อควรรู้: พฤติกรรมแมวไม่ใช่ “นิสัย” แต่สะท้อนสภาพจิตใจและสภาวะร่างกายแบบเรียลไทม์
ยิ่งเข้าใจไว = ยิ่งรักษาได้เร็ว


2. แผนภูมินี้ใช้ระบบ “รหัสพฤติกรรม 5 ระดับ” เพื่อให้ทีมสัตวแพทย์ประเมินแมวได้แม่นและสื่อสารกันได้เร็ว

ระบบนี้ทำให้แมว 1 ตัว กลายเป็น “ข้อมูลที่เข้าใจได้ทั้งทีม”
ทุกคนรู้ว่าน้องอยู่ระดับไหน ต้องจัดการยังไง ปรับแผนยังไง

ระดับพฤติกรรม 5 ขั้น (จากชาร์ตของ iCatCare):

  1. ระดับ 1 – สบายใจ: นั่งผ่อนคลาย, ตอบสนองดี, ยอมให้สัมผัส

  2. ระดับ 2 – ระแวง: เริ่มระวังสิ่งรอบตัว, อาจเลียปากหรือหางกระดิกถี่

  3. ระดับ 3 – วิตก/ไม่ไว้ใจ: หลีกเลี่ยงการสัมผัส, หลีกสายตา

  4. ระดับ 4 – ขู่/ป้องกันตัว: ฟ่อ, ขู่เสียงดัง, หงุดหงิด

  5. ระดับ 5 – หนี/แช่แข็ง: กลัวสุดขีด, ไม่กิน, ไม่ขยับ, ไม่ยอมรับอะไรเลย

เทคนิค: คลินิกที่ใช้ชาร์ตนี้มักจะแปะไว้ที่กรงแมว และให้เจ้าหน้าที่ทุกคนใช้ “ภาษากลาง” ในการบันทึกอารมณ์แมว
เช่น "แมวตัวนี้วันนี้อยู่ระดับ 3 ต้องค่อยๆ เข้าใกล้ ใช้เวลาให้น้องปรับตัวก่อน"


3. พฤติกรรมแมวสามารถ “เปลี่ยนระดับได้ตลอดวัน” และควรมีการประเมินซ้ำทุก 8–12 ชั่วโมง

แมวบางตัวเช้าอยู่ระดับ 4 ฟ่อสุดฤทธิ์ แต่บ่ายกลับมากินอาหารแล้วปีนกรง
แปลว่าอารมณ์แมว “ยืดหยุ่น” และเราควรสังเกตพฤติกรรมหลายรอบต่อวันเพื่อความแม่นยำ

จาก Cat Mood Monitoring Guidelines – ISFM:

  • แนะนำให้ประเมินระดับพฤติกรรมของแมวอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง (เช้า–เย็น)

  • การให้แมวพักโดยไม่มีการรบกวน 1–2 ชั่วโมงก่อนประเมิน ช่วยให้เห็นพฤติกรรมจริง

  • 41% ของแมวเปลี่ยนจากระดับ 4 ไปเป็นระดับ 2 ภายใน 24 ชั่วโมงเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมเงียบและมีผ้าคลุมกรง

เคล็ดลับ: ถ้าคลินิกของคุณยังไม่มีการประเมินแบบนี้ ลองขอให้ทีมสัตวแพทย์ “บันทึกพฤติกรรมรายวัน” ของแมวคุณดูครับ
จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าแมวตอบสนองต่อการรักษาอย่างไรบ้าง แม้คุณจะไม่ได้อยู่ตรงนั้น


4. กล่องหลบซ่อน ผ้าห่มจากบ้าน และกลิ่นคุ้นเคย ช่วยลดระดับพฤติกรรมจาก 4 เหลือ 2 ได้ภายใน 48 ชม.

แมวต้องการ “พื้นที่ปลอดภัย” และแผนภูมินี้ระบุชัดว่า “สิ่งของจากบ้าน” ช่วยได้มากกว่าที่คิด

งานวิจัยจาก Cat Environment & Stress Response Study:

  • การมีที่หลบซ่อนในกรงช่วยลดระดับพฤติกรรมได้เฉลี่ย 1.5 ขั้น

  • แมวที่ได้กลิ่นเจ้าของ เช่น เสื้อยืด หรือผ้าห่มที่บ้าน แสดงความร่วมมือในการรักษาเพิ่มขึ้น 43%

  • การเปิดวิทยุคลื่นธรรมชาติ (เสียงนก/น้ำไหล) วันละ 30 นาที ลดพฤติกรรมขู่ได้ใน 1 สัปดาห์

ข้อควรรู้: อย่าลืมเตรียมของจากบ้านให้น้อง เช่น ผ้าห่ม เสื้อ หรือของเล่น
แจ้งคลินิกให้วางไว้กับน้องตอนพักฟื้นเสมอครับ


5. คลินิกที่ใช้ Hospitalisation Chart อย่างต่อเนื่อง มีอัตราแมวกลับมาใช้บริการซ้ำเพิ่มขึ้นถึง 64%

การดูแลอารมณ์แมว ไม่ได้แค่ช่วยน้องดีขึ้น แต่ยังช่วยให้เจ้าของ “มั่นใจ” ว่าคลินิกเข้าใจแมวจริงๆ

จาก Cat Friendly Clinic Satisfaction Survey (UK):

  • 64% ของเจ้าของที่รู้ว่าแมวได้รับการประเมินพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง “กลับมาใช้บริการที่เดิม”

  • 71% รู้สึกว่าแมวไม่เครียดเท่าครั้งก่อน และฟื้นตัวไวขึ้น

  • คลินิกที่มีระบบชาร์ตแบบนี้ มีโอกาสได้รับคำแนะนำต่อสูงกว่า 2 เท่า

ข้อควรรู้: ถ้าคุณกำลังมองหาคลินิกดีๆ ลองสอบถามว่าใช้ Hospitalisation Chart หรือแนวทาง Cat Friendly Clinic หรือไม่
เพราะนั่นคือสัญญาณว่า "เขาไม่ดูแลแค่แมว แต่ดูแลทั้งจิตใจน้องและใจเจ้าของด้วย"


แมวไม่ได้ป่วยแค่กาย…แต่เขารู้สึก
และ Hospitalisation Chart ก็คือเครื่องมือช่วย “อ่านใจแมว” อย่างเป็นระบบ
ยิ่งเราประเมินไว ตอบสนองเร็ว และดูแลถูกจุด
ก็ยิ่งช่วยให้แมวของคุณฟื้นตัวเร็วขึ้น อารมณ์ดีขึ้น และกลับมาเป็นแมวที่คุณรักเหมือนเดิมได้ไวขึ้นแน่นอนครับ


#อ่านใจแมวในโรงพยาบาล #HospitalisationChartคือหัวใจการดูแลแมว #คลินิกแมวที่เข้าใจจริง #แมวสบายใจเจ้าของก็อุ่นใจ #Lazadogดูแลแมวทุกมิติ


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts