เผย 5 ข้อมูลเชิงลึก! ถ่ายพยาธิให้แมว สำคัญกว่าที่คุณคิด (และไม่ใช่แค่ตอนยังเป็นลูกแมว) (อัปเดท 2025)

Apr 19, 2025
การรับเลี้ยงและการดูแล
เผย 5 ข้อมูลเชิงลึก! ถ่ายพยาธิให้แมว สำคัญกว่าที่คุณคิด (และไม่ใช่แค่ตอนยังเป็นลูกแมว) (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

เผย 5 ข้อมูลเชิงลึก! ถ่ายพยาธิให้แมว สำคัญกว่าที่คุณคิด (และไม่ใช่แค่ตอนยังเป็นลูกแมว)

ในสายตาทาสหลายคน การถ่ายพยาธิอาจเป็นแค่ขั้นตอน "พื้นฐาน" ที่ทำตอนแมวยังเล็ก แล้วก็... ลืมไปเลย

แต่ความจริงคือ แมวทุกวัย (ไม่เว้นแมวบ้านที่ไม่เคยออกไปไหน) ก็มีโอกาสติดพยาธิได้ และผลกระทบต่อสุขภาพอาจรุนแรงกว่าที่คิด!

วันนี้เราจะพาคุณไปล้วงลึก 5 ข้อมูลที่เจ้าของแมวควรรู้เกี่ยวกับการถ่ายพยาธิ พร้อมเทคนิคแบบทาสมือโปรที่ช่วยให้น้องแมวสบายท้อง เจ้าของสบายใจครับ


1. แมวกว่า 45% เคยติดพยาธิอย่างน้อยหนึ่งชนิดในชีวิต

จากงานวิจัยของ Cornell University College of Veterinary Medicine พบว่า

“มากกว่า 45% ของแมวที่ได้รับการตรวจ มีพยาธิในลำไส้หรืออวัยวะอื่น แม้จะเลี้ยงในบ้านก็ตาม”

พยาธิที่พบได้บ่อยในแมวไทย เช่น:

  • พยาธิตัวกลม (Roundworm)

  • พยาธิตัวแบน (Tapeworm)

  • พยาธิปอด (Lungworm)

  • พยาธิหัวใจ (Heartworm) ซึ่งแม้พบได้น้อยกว่าในหมา แต่ก็เริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในแมวเลี้ยงนอกบ้าน

ข้อควรรู้:
แมวสามารถรับพยาธิผ่านการเลียอุ้งเท้า กัดกินเหยื่อ (เช่น แมลงสาบ, จิ้งจก) หรือแม้แต่จากน้ำนมแม่แมวที่มีพยาธิแฝงอยู่


2. พยาธิบางชนิดอาจ “ไม่มีอาการชัดเจน” แต่ส่งผลร้ายในระยะยาว

แมวที่ติดพยาธิบางชนิดอาจดูเหมือนสุขภาพดี กินได้ เล่นได้ แต่ภายในร่างกายอาจมี:

  • การดูดซึมสารอาหารผิดปกติ

  • ภูมิคุ้มกันต่ำ

  • เสี่ยงภาวะโลหิตจาง หรือขาดน้ำเรื้อรัง

งานวิจัยจาก Companion Animal Parasite Council (CAPC) ชี้ว่า

“แมวที่ไม่ถ่ายพยาธิเป็นประจำ มีแนวโน้มเกิดโรคทางเดินอาหาร และภาวะขาดสารอาหารเรื้อรังถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับแมวที่ได้รับการดูแล”

เคล็ดลับ:
สังเกตอาการเล็กๆ เช่น อาเจียนบ่อย น้ำหนักลด ขนหยาบ หรือถ่ายเหลวบ่อย อาจเป็นสัญญาณของพยาธิแฝงครับ


3. ลูกแมวควรถ่ายพยาธิ 3–4 ครั้งในช่วง 2 เดือนแรก

หลายคนเข้าใจว่า "พอลูกแมวครบวัคซีนก็จบ" แต่เรื่องถ่ายพยาธิควรเริ่มตั้งแต่ช่วง 2 สัปดาห์แรก!

ตารางถ่ายพยาธิสำหรับลูกแมว:

  • อายุ 2, 4, 6 และ 8 สัปดาห์: ถ่ายพยาธิทุก 2 สัปดาห์

  • หลังจากนั้น: ถ่ายทุก 1 เดือนจนกว่าจะครบ 6 เดือน

  • หลัง 6 เดือน: ถ่ายพยาธิทุก 3 เดือนอย่างสม่ำเสมอ

ข้อควรรู้:
พยาธิในลูกแมวสามารถโตเร็วและขยายพันธุ์ได้ใน 2 สัปดาห์ ทำให้เกิดอาการรุนแรง เช่น ท้องบวม ถ่ายเป็นเลือด หรือเสียชีวิตในรายที่รุนแรง


4. แมวโตควรถ่ายพยาธิอย่างน้อย “ทุก 3 เดือน” แม้ไม่เคยออกนอกบ้านเลย

แมวเลี้ยงในบ้านไม่ได้ “ปลอดภัย 100%” จากพยาธิ
คุณรู้ไหมว่า...

  • เจ้าของอาจนำไข่พยาธิเข้าบ้านผ่านรองเท้า เสื้อผ้า หรืออาหารดิบ

  • พยาธิบางชนิดสามารถติดต่อจากหมา หรือแมวตัวอื่นในบ้านได้

องค์กร ESCCAP – European Scientific Counsel Companion Animal Parasites แนะนำว่า:

“แมวโตควรได้รับการถ่ายพยาธิทุก 3 เดือนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงหลายตัวหรือเด็กเล็ก”

เคล็ดลับ:
เลือกยาถ่ายพยาธิที่ครอบคลุมทั้งพยาธิตัวกลม ตัวแบน และพยาธิภายนอกบางชนิด (เช่น ไรหู) และควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนใช้ทุกครั้ง


5. ยาถ่ายพยาธิมีหลายรูปแบบ ไม่ต้องบังคับแมวให้กินยาแบบเดิมๆ อีกต่อไป!

สำหรับแมวที่กินยาลำบากจนเจ้าของต้องเจ็บมือ... วันนี้วงการสัตว์เลี้ยงไปไกลแล้วครับ!

ตัวเลือกยอดฮิต:

  • ยาหยอดหลัง: ใช้ง่าย ครอบคลุมพยาธิบางชนิด

  • ยาน้ำรสปลา: ซ่อนในขนมได้

  • ยาเม็ดเคลือบรส: ซ่อนในไก่ต้มหรืออาหารเปียก

  • สูตรรวมกันกับยากำจัดเห็บหมัด: ใช้เดือนละครั้ง สะดวกสุดๆ

ข้อควรรู้:
แมวแต่ละตัวมีรสนิยมต่างกัน ลองหลายวิธีแล้วจดไว้ว่าแบบไหนเวิร์กที่สุดในบ้านเรา


การถ่ายพยาธิไม่ใช่แค่ “ขั้นตอนเสริม” แต่คือหนึ่งในหัวใจของการดูแลแมวให้แข็งแรง มีชีวิตยืนยาว และไม่เป็นพาหะของโรคในบ้าน

เพียงแค่รู้จักพฤติกรรมแมว เลือกยาที่เหมาะ และวางแผนการถ่ายพยาธิให้สม่ำเสมอ คุณก็ช่วยให้น้องมีสุขภาพดีได้แบบง่ายๆ แล้วครับ


#ถ่ายพยาธิแมว #แมวสุขภาพดีไม่มีพยาธิ #แมวเลี้ยงในบ้านก็เสี่ยงพยาธิ #Lazadogดูแลแมวฉบับมือโปร #รักแมวต้องใส่ใจเรื่องพยาธิ


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts