เผย 5 ข้อมูลเชิงลึก! ทำไมแมวถึงกลัวการหาหมอ และเจ้าของควรรับมือยังไงให้แมวไม่ระเบิดอารมณ์ (อัปเดท 2025)

Apr 18, 2025
healthy สุขภาพ
เผย 5 ข้อมูลเชิงลึก! ทำไมแมวถึงกลัวการหาหมอ และเจ้าของควรรับมือยังไงให้แมวไม่ระเบิดอารมณ์ (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

เผย 5 ข้อมูลเชิงลึก! ทำไมแมวถึงกลัวการหาหมอ และเจ้าของควรรับมือยังไงให้แมวไม่ระเบิดอารมณ์

สำหรับเจ้าของหมา การพาไปหาหมออาจจะเป็นแค่เรื่อง “เดินสายจูงแล้วออกบ้าน”
แต่สำหรับเจ้าของแมว…แค่เห็นกระเป๋าแมว แมวก็ “ฟ่อก่อน” แล้วครับ!

แมวเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อเรื่อง "กลัวการเปลี่ยนแปลง" และ “กลัวการถูกควบคุม”
การพาไปหาหมอจึงกลายเป็นประสบการณ์สุดแสนตึงเครียดทั้งสำหรับแมวและเจ้าของ
และถ้าเราไม่เข้าใจปัญหานี้ให้ลึกพอ บอกเลยครับว่าอาจพลาดจนเกิด “บาดแผลทั้งใจและกาย”

วันนี้ผมจะพาคุณไปดู 5 ข้อมูลเชิงลึกที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน จากแนวคิดของ Cat Friendly Veterinary Care ที่จะเปลี่ยนประสบการณ์พาแมวไปหาหมอให้ “เบาลงและปลอดภัยขึ้น” ทั้งสำหรับแมวและมนุษย์ครับ


1. 78% ของแมวมีความเครียดระดับสูงเมื่อเข้าใกล้คลินิกสัตวแพทย์

หลายคนเข้าใจว่าแมวซึมเฉยๆ เวลาไปหาหมอ แต่จริงๆ แล้วแมวส่วนใหญ่เครียด “ระดับหนัก”

ข้อมูลจาก International Society of Feline Medicine (ISFM):

  • 78% ของแมวมีระดับฮอร์โมน Cortisol สูงขึ้นทันทีเมื่อเข้าใกล้กลิ่นหรือบรรยากาศคลินิก

  • 67% แสดงอาการซ่อนความกลัว เช่น ซ่อนตัว หยุดเคลื่อนไหว หรือหายใจถี่

  • แมวที่มีประสบการณ์แย่กับคลินิกครั้งแรก มีแนวโน้มปฏิเสธการเดินทางในอนาคตสูงถึง 84%

ข้อควรรู้: อย่าตีความความเงียบของแมวว่า “เฉยๆ” เพราะอาจเป็นการ “ช็อกในอารมณ์” ซึ่งหนักกว่าการดิ้นหรือร้องเสียอีก


2. พฤติกรรมแมวในคลินิกเกี่ยวข้องโดยตรงกับ “กลิ่น เสียง และการสัมผัส”

แมวไวต่อสิ่งกระตุ้นรอบตัวสูงมาก โดยเฉพาะ “กลิ่นของหมา” และ “เสียงเครื่องมือ”

งานวิจัยจาก Feline Environmental Sensory Study (2021):

  • เสียงเครื่องอัลตราซาวนด์/เสียงเปิดลิ้นชัก ส่งผลให้แมวตื่นตกใจสูงถึง 64%

  • แมวที่ได้กลิ่นของหมาหรือแมวตัวอื่นจากเคสมาก่อนหน้า มีอัตราความเครียดเพิ่มขึ้น 55%

  • แสงไฟจ้าในห้องตรวจเพิ่มระดับความดันแมวเฉลี่ย 18 mmHg

เทคนิค:

  • พาแมวเข้าคลินิกในช่วงเวลาคนน้อย เช่น ตอนเช้า

  • ขอให้คลินิกปูผ้าให้แมวบนโต๊ะตรวจ และลดแสงในห้องหากเป็นไปได้

  • ใช้กล่องพกพาที่ปิดทึบและพ่น Feliway (ฮอร์โมนปลอมที่ทำให้แมวผ่อนคลาย) ก่อนเดินทาง


3. 1 ใน 3 ของเจ้าของที่เคยพาแมวไปหาหมอแล้วเจอความยากลำบาก “เลี่ยงการไปหาหมออีก”

นี่แหละครับ...ปัญหาจริงที่ส่งผลระยะยาว

ข้อมูลจาก American Association of Feline Practitioners (AAFP):

  • 32% ของเจ้าของยอมรับว่าเคย "เลื่อนหรือเลี่ยงการพาแมวไปตรวจ" เพราะกลัวเจอปัญหาเดิม

  • 21% เคยมีประสบการณ์โดนแมวข่วนหรือกัดระหว่างพาไป

  • ความเครียดของเจ้าของมีผลต่อความเครียดของแมวโดยตรงในวันไปคลินิก

ข้อควรรู้: การเตรียมใจเจ้าของก่อนพาแมวไปหาหมอคือเรื่องจำเป็นไม่แพ้การเตรียมแมว
ควรพูดกับแมวด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่เร่ง ไม่กล่อมจนเครียด และเตรียมทุกอย่างล่วงหน้า


4. คลินิกแบบ “Cat Friendly” สามารถลดอาการเครียดของแมวได้มากกว่า 50%

ไม่ใช่แค่คำโฆษณาครับ แต่มีงานวิจัยรองรับว่าคลินิกที่ได้รับการออกแบบโดยเฉพาะสำหรับแมวส่งผลดีจริง

จาก Cat Friendly Clinic Certification Report (2023):

  • แมวที่เข้าใช้บริการคลินิกที่ได้รับการรับรอง “Cat Friendly” มีพฤติกรรมรุนแรงลดลง 53%

  • การแยกห้องรอต่างหากจากหมา ลดความเครียดแมวได้ถึง 61%

  • สัตวแพทย์ที่เข้าอบรมพฤติกรรมแมวโดยเฉพาะ ทำให้แมวไว้ใจและร่วมมือดีขึ้น 70%

เคล็ดลับ: ก่อนนัดหาหมอ ลองสอบถามคลินิกว่าเป็นมิตรกับแมวไหม หรือมีโซนแยกสัตว์หรือไม่
ยิ่งถ้าคลินิกมีการรับรองจาก iCatCare หรือใช้แนวปฏิบัติ Cat Friendly ยิ่งน่าเชื่อถือ


5. ยาเสริมพฤติกรรมและฮอร์โมนปลอมช่วยให้แมวสงบลงก่อนพบหมอ

ไม่ต้องกลัวว่าใช้ยาแล้วจะทำให้น้องมึนหรือพึ่งยาไปตลอด เพราะบางตัวแค่ต้องการ “ตัวช่วย” เล็กๆ เท่านั้น

ข้อมูลจาก Veterinary Anxiolytics Guidelines (WSAVA):

  • แมวที่ได้รับยากลุ่ม anxiolytics เช่น Gabapentin ก่อนพบหมอ มีระดับความร่วมมือต่อการตรวจดีขึ้น 49%

  • การใช้เจลฮอร์โมนแมว Feliway แบบพ่นหรือแปะในกระเป๋า ลดความก้าวร้าวได้เฉลี่ย 41%

  • ต้องให้ยาก่อนเดินทางอย่างน้อย 90 นาที และควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของสัตวแพทย์เท่านั้น

ข้อควรรู้:
ไม่ควรใช้ยาคนกับแมวเด็ดขาด เช่น ยานอนหลับหรือยาคลายเครียด เพราะอาจมีผลต่อระบบประสาทแมวอย่างรุนแรง
ควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนเสมอ


แมวไม่ใช่สัตว์ที่ "ไปหาหมอได้ง่ายๆ" เหมือนหมา
แต่ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติของเขาและเตรียมตัวให้เหมาะสม การไปคลินิกก็ไม่จำเป็นต้องเป็นสนามรบครับ

ทั้งเจ้าของและหมอสามารถร่วมมือกันได้ ถ้าเราเลือกคลินิกที่เหมาะกับแมว ใช้วิธีลดความเครียดที่ได้ผล และฝึกน้องแมวให้รู้สึกปลอดภัยตั้งแต่ยังเล็ก
เพราะแมวที่สุขภาพดีเริ่มต้นจากประสบการณ์หาหมอที่ดีนั่นเองครับ


#แมวไม่ใช่แฟนหมอ #คลินิกแมวต้องเป็นมิตร #เครียดแมวเครียดคน #แมวต้องได้รับการดูแลแบบเข้าใจ #Lazadogใส่ใจแมวทุกขั้นตอน


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts