เปิด 5 สถิติน่ารู้ “หัวใจเต้นผิดจังหวะในหมา” เงียบแต่แรง ถ้ารู้ทันก็เซฟชีวิตได้

เคยไหมครับ จับหน้าอกน้องหมาแล้วรู้สึกว่าหัวใจเขา “เต้นไม่สม่ำเสมอ” หรือบางครั้ง “เต้นเร็วแปลกๆ” ตอนที่เขาแค่นอนเฉยๆ
บางคนอาจคิดว่า “หมานอนฝัน” หรือ “ตื่นเต้นเพราะเห็นขนม” แต่จริงๆ แล้ว…
อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะ “หัวใจเต้นผิดจังหวะ (Canine Arrhythmia)” ที่ต้องระวังอย่างมาก

วันนี้ผมจะพาคุณมา เปิด 5 สถิติน่ารู้เกี่ยวกับหัวใจเต้นผิดจังหวะในหมา
เพื่อเข้าใจความเสี่ยง สังเกตอาการ และเตรียมตัวให้พร้อมก่อนปัญหาใหญ่จะมาถึงครับ!

1. 10–15% ของหมาที่เข้ารับการรักษาโรคหัวใจ “มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะร่วมด้วย”

จากข้อมูลของ American College of Veterinary Internal Medicine (ACVIM)
ภาวะนี้พบได้ในหมาทุกวัย แต่พบบ่อยใน หมาสูงวัย และพันธุ์ที่มีแนวโน้มเป็นโรคหัวใจ เช่น โดเบอร์แมน, บ็อกเซอร์, คาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส สแปเนียล

อาการที่ควรสังเกต:

• หมาดูเหนื่อยง่ายกว่าปกติ

• หายใจหอบตอนนอนเฉยๆ

• เป็นลมเฉียบพลันขณะเล่น

• ตัวสั่นเมื่ออยู่ในที่สงบ

ข้อควรรู้: ไม่ใช่ทุกกรณีจะมีอาการชัดเจน บางรายเจอจากการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจโดยบังเอิญครับ

2. ภาวะหัวใจเต้นช้ากว่าปกติ (Bradyarrhythmia) พบได้ในหมาสูงวัยถึง 30%

จากการศึกษาของ University of California, Davis – Veterinary Cardiology
พบว่าหมาสูงวัย (อายุ 8 ปีขึ้นไป) มีแนวโน้มหัวใจเต้นช้าลงจากภาวะไฟฟ้าหัวใจส่งสัญญาณผิดปกติ

กลเม็ดในการสังเกต:

• น้องดูซึม ไม่อยากออกไปเดินเล่นเหมือนเคย

• นอนหลับเยอะผิดปกติ

• เวลาตื่นหรือลุกเร็วๆ แล้วเป็นลม

• หัวใจเต้นต่ำกว่า 60 ครั้งต่อนาที (ในหมาพันธุ์กลางถึงใหญ่)

เทคนิค: ลองจับชีพจรที่ขาหนีบน้องเบาๆ แล้วจับเวลาตามสูตร 15 วินาที x 4 = BPM

3. หัวใจเต้นเร็วเกินปกติ (Tachyarrhythmia) อาจทำให้น้อง “หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน” ได้ในบางสายพันธุ์

สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยง ได้แก่ โดเบอร์แมน, เยอรมันเชพเพิร์ด, ดัลเมเชียน และสุนัขที่มีภาวะหัวใจโต
จากรายงานของ Veterinary Clinics of North America พบว่า
อัตราการเสียชีวิตเฉียบพลันในหมาที่มีภาวะนี้แบบรุนแรงอยู่ที่ สูงถึง 20% หากไม่ได้รับการรักษา

อาการน่าสงสัย:

• หัวใจเต้นรัวแม้นอนนิ่ง

• หายใจถี่โดยไม่มีสาเหตุ

• มีอาการกระตุกหรือเป็นลม

• ลิ้นหรือเหงือกซีด/ม่วง

ข้อควรรู้: การวัดอัตราการเต้นหัวใจของน้องโดยใช้สมาร์ทวอชหรือแอปมือถือร่วมกับ stethoscope สำหรับสัตว์เลี้ยงเริ่มนิยมมากขึ้นครับ

4. หมาที่ได้รับการรักษาด้วยยา “สามารถควบคุมจังหวะหัวใจได้ดีขึ้นกว่า 75%”

ยากลุ่ม anti-arrhythmic drugs เช่น Atenolol, Sotalol หรือ Diltiazem
เมื่อใช้ตามคำแนะนำของสัตวแพทย์หัวใจเฉพาะทาง
สามารถช่วยให้น้องหมากลับมามีคุณภาพชีวิตใกล้เคียงปกติได้มากกว่า 75% ภายใน 1–3 เดือน

ข้อควรรู้:

• ต้องตรวจเลือดและคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) เป็นระยะ

• ไม่ควรหยุดยาเอง หรือเปลี่ยนยากะทันหัน

• ในบางเคสที่รุนแรง อาจต้องฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจ (pacemaker)

เทคนิค: บันทึกชีพจร–อาการหลังให้ยาในแอปพลิเคชันหรือสมุดสุขภาพหมา เพื่อส่งให้หมอวิเคราะห์ได้ง่ายขึ้น

5. การตรวจสุขภาพหัวใจประจำปี “ช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตเฉียบพลันจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ถึง 40%”

จากข้อมูลของ European Society of Veterinary Cardiology
การตรวจสุขภาพหัวใจประจำปี โดยเฉพาะในหมาอายุมากกว่า 7 ปี
สามารถพบภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะในระยะต้น และจัดการได้ทันท่วงที

การตรวจที่แนะนำ:

• ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG)

• ตรวจคลื่นเสียงหัวใจ (Echocardiography)

• ตรวจเลือดดูค่ากล้ามเนื้อหัวใจ (NT-proBNP)

• เช็กความดันโลหิต

ข้อควรรู้: อย่ารอให้เกิดอาการ เพราะโรคหัวใจในหมาหลายตัว “เงียบมาก” แต่รุนแรงแบบคาดไม่ถึงครับ

หัวใจน้องหมาไม่ได้มีแค่เรื่องของ “รัก” แต่ยังมีเรื่องของ “จังหวะชีวิต” ที่ต้องใส่ใจ
เพราะถ้าจังหวะหัวใจผิดไปนิดเดียว อาจเปลี่ยนจากอาการเล็กๆ เป็นเรื่องใหญ่ได้ภายในพริบตา
เจ้าของอย่างเราแค่หมั่นสังเกต ลองจับจังหวะ และพาน้องตรวจปีละครั้ง ก็ช่วยให้หัวใจน้องเต้นไปได้นานอย่างปลอดภัยแล้วครับ

#หัวใจหมาก็ต้องใส่ใจ #ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหมา #หมาเหนื่อยง่ายอย่าชะล่าใจ #Lazadogห่วงใจทุกจังหวะของน้องหมา #หัวใจน้องไม่ใช่เรื่องเล่น

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com