เปิด 5 สถิติน่ารู้ “น้ำยาเช็ดหูสำหรับสุนัข” ไม่เช็ด ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไรอยู่ในนั้น!
เคยได้กลิ่นตุๆ จากหูน้องหมาไหมครับ?
หรือเคยเห็นน้องส่ายหัวบ่อยๆ เอาขาถูหู หรือถึงขั้นเอาหน้าถูพื้นแบบไม่เกรงใจพรมในบ้านเลย?
อาการพวกนี้อาจไม่ได้มาเพราะ “อารมณ์หมา” แต่มาจาก “ขี้หูสะสม เชื้อรา หรือแบคทีเรีย” ที่ซ่อนอยู่ในนั้น!
วันนี้ผมจะพาทุกคนมาเปิด 5 สถิติน่ารู้เกี่ยวกับการทำความสะอาดหูสุนัข พร้อมเทคนิคเลือกน้ำยาเช็ดหูที่ดี ใช้แล้วปลอดภัย ไม่มีร้องโวยวายให้เจ็บใจครับ
จากข้อมูลของ American Veterinary Medical Association (AVMA)
พบว่า ปัญหาเกี่ยวกับหู เช่น หูอักเสบ หูมีกลิ่น เชื้อรา เป็น 1 ใน 5 โรคยอดฮิตของน้องหมา
โดยเฉพาะสายพันธุ์หูตก เช่น ค็อกเกอร์ สแปเนียล, บีเกิ้ล หรือโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ที่มีโอกาสเจอปัญหานี้สูงกว่า 3 เท่า
หูสุนัขไม่มีการระบายอากาศเหมือนคน
ความชื้นสะสม = จุดเกิดเชื้อราและแบคทีเรีย
ยิ่งหูตก ยิ่งเกิดการหมักหมม
กลเม็ด: ทำความสะอาดหูอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง (หรือ 2 ครั้งถ้าน้องชอบลงน้ำ)
จากการสำรวจของ Lazadog Research ปี 2024
พบว่า เจ้าของกว่า 75% เคยใช้น้ำเกลือ, สำลีชุบน้ำ, หรือแม้แต่น้ำสบู่อ่อนๆ เช็ดหูหมา!
ซึ่งอาจฟังดูเบา แต่จริงๆ แล้วอาจทำให้ ค่าความเป็นกรด–ด่าง (pH) ในหูหมาเสียสมดุล
และเปิดโอกาสให้แบคทีเรียหรือเชื้อราเจริญเติบโตเร็วขึ้น
ต้องระบุ “สำหรับสัตว์เลี้ยง” เท่านั้น
ค่าความเป็นกรดด่าง (pH) อยู่ในช่วง 6.5–7.5
ไม่มีแอลกอฮอล์หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
ข้อควรรู้: น้ำยาที่มีกลิ่นหอมฉุนเกินไป อาจทำให้หมาแพ้หรือระคายเคือง
ข้อมูลจาก Cornell University College of Veterinary Medicine ระบุว่า
หมาที่เจ้าของเช็ดหูอย่างถูกวิธีและใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม สม่ำเสมอสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง มีโอกาสเกิดหูอักเสบน้อยลงถึง 58%
โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนหรือฤดูร้อน ที่ความชื้นสะสมง่าย
หยอดน้ำยาเช็ดหูประมาณ 2–3 หยดลงในรูหู
นวดโคนหูเบาๆ ประมาณ 30 วินาที (จะได้ยินเสียง “บล๊อกๆ” ในหู)
ปล่อยให้น้องส่ายหัว
ใช้สำลีพันก้านหรือผ้าสะอาดเช็ดบริเวณรอบหู (ห้ามใช้คัตตอนบัดจิ้มลึก)
กลเม็ด: เช็ดหูหลังอาบน้ำทุกครั้ง เพราะความชื้นจากการอาบน้ำทำให้เชื้อรามาเร็วสุดๆ
จากการทดสอบผลิตภัณฑ์ 12 แบรนด์ยอดนิยมในไทยโดย Lazadog Petcare Lab ปี 2023
พบว่า น้ำยาเช็ดหูที่มีส่วนผสมของ Chlorhexidine หรือ Ketoconazole สามารถลดการเจริญของเชื้อแบคทีเรียและยีสต์ได้ภายใน 48 ชั่วโมง
Chlorhexidine: ยับยั้งแบคทีเรีย
Ketoconazole: ฆ่าเชื้อรา
Aloe Vera / Chamomile: ลดการระคายเคือง
Salicylic acid: ขจัดคราบมัน / ขี้หูส่วนเกิน
ข้อควรรู้: ไม่จำเป็นต้องใช้สูตรแรงถ้าไม่มีอาการ แต่ถ้าน้องมีกลิ่น/คัน ควรเลือกสูตรที่ช่วยควบคุมเชื้อโดยเฉพาะ
อย่าเพิ่งคิดว่าเช็ดบ่อยแล้วดีเสมอไปนะครับ... เพราะจากข้อมูลของ British Veterinary Association (BVA)
พบว่า เกือบครึ่งของหมาที่หูอักเสบบ่อย เกิดจากการเช็ดแรงเกินไป หรือเช็ดลึกเกินไป จนเยื่อบุในหูชั้นนอกอักเสบ
ใช้ผ้านุ่ม / สำลีแผ่น เช็ดเฉพาะด้านนอกเท่านั้น
ห้ามจิ้มลึก หรือหมุนวนในหูเด็ดขาด
หากหมามีแผลในหู ห้ามเช็ด ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
กลเม็ด: ถ้าหลังเช็ดน้องหมาแสดงอาการหงุดหงิด หรือเอาหูไปถูพื้นตลอด แสดงว่าอาจระคายเคือง ต้องเว้นการเช็ดทันที
การดูแลหูน้องหมาไม่ใช่แค่เรื่องความสะอาด แต่เกี่ยวข้องกับ สุขภาพโดยรวม ความสบายตัว และการป้องกันโรคหูอักเสบเรื้อรัง
แค่เลือกน้ำยาเช็ดหูให้ถูก เช็ดให้ถูกจังหวะ และรู้ว่าหมาตัวเองเหมาะกับสูตรไหน ก็ช่วยให้หมาหูสะอาด ไม่มีตุ ไม่ต้องเกาให้เมื่อยอีกต่อไปครับ!
#เช็ดหูหมาอย่างไรให้ปลอดภัย #หมาหูสะอาดห่างไกลกลิ่นตุ #น้ำยาเช็ดหูหมาต้องรู้ก่อนใช้ #ดูแลหมาจากโคนหูถึงปลายหาง #Lazadogห่วงใยน้องหมาทุกวัน
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com