เปิด 5 สถิติน่ารู้ “ผลข้างเคียงจากยาสุนัข” ที่เจ้าของมักมองข้าม
เวลาเราพาน้องหมาไปหาหมอ ได้ยากลับบ้านมา เราก็มักจะคิดว่า “โอเค หมอก็ให้ยาดีที่สุดแล้วแหละ”
แต่รู้ไหมครับว่า... ยาสำหรับสุนัข (แม้จะสั่งโดยสัตวแพทย์) ก็มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้ และบางครั้งอาการที่หมาแสดงออกมา ก็ไม่ใช่เพราะโรค... แต่เพราะยา!
วันนี้ผมจะพาคุณมาดู 5 สถิติน่ารู้ ที่อ้างอิงจากข้อมูลสัตวแพทย์ทั่วโลก เพื่อให้เรารู้ทัน ป้องกัน และดูแลน้องหมาให้ปลอดภัยมากขึ้นจาก “ผลข้างเคียงของยา”
จากข้อมูลของ FDA Center for Veterinary Medicine (สหรัฐอเมริกา)
พบว่า หมามากกว่า 1 ใน 4 จะมีปฏิกิริยาบางอย่างหลังได้รับยา โดยเฉพาะใน 2 วันแรก
อาการที่พบได้บ่อย:
อาเจียน / ถ่ายเหลว
เบื่ออาหาร
ซึม / ไม่ร่าเริง
คัน ผื่นขึ้น
อาการเล็กน้อยอาจหายได้เอง แต่ ถ้ามีอาการรุนแรงใน 1–2 ชั่วโมงหลังให้ยา เช่น หายใจเร็ว ปากซีด หรือทรุดทันที ให้รีบพาไปหาสัตวแพทย์ทันที เพราะอาจเกิด “อาการแพ้รุนแรง (anaphylaxis)”
จากสถิติของ American College of Veterinary Internal Medicine (ACVIM)
พบว่า ยากลุ่ม NSAIDs (เช่น Carprofen, Meloxicam, Firocoxib) เป็นกลุ่มยาที่สร้างผลข้างเคียงรุนแรงมากที่สุดในหมา
โดยเฉพาะในหมาสูงวัย หรือหมาที่มีปัญหาไต ตับอยู่แล้ว
ผลข้างเคียงที่ต้องระวัง:
ไตวายเฉียบพลัน
เลือดออกในทางเดินอาหาร
อาเจียนเป็นเลือด / ถ่ายดำ
ซึม เบื่ออาหารตลอดหลายวัน
อย่าให้ยาลดปวดในคนกับหมา (โดยเฉพาะ Ibuprofen หรือ Diclofenac)
ควรตรวจเลือดก่อนเริ่มใช้ยา NSAIDs ถ้าเป็นหมาอายุมากกว่า 7 ปี
หมาพันธุ์อย่างคอลลี่ (Collie), ออสซี่ (Australian Shepherd), และบอร์เดอร์คอลลี่ มีความไวต่อยากลุ่ม Avermectin เช่น Ivermectin, Moxidectin มากกว่าปกติ
ข้อมูลจาก Washington State University ระบุว่า หมาที่มียีนกลายพันธุ์ MDR1 จะเสี่ยงต่อผลข้างเคียงจากยาเหล่านี้
อาการที่อาจเกิดขึ้น:
เดินเซ
ชัก
ตอบสนองช้า
อาจถึงขั้นโคม่าในรายที่รุนแรง
ถ้าหมาของคุณเป็นพันธุ์เสี่ยง ขอให้สัตวแพทย์ตรวจยีน MDR1 ก่อน
อ่านฉลากให้แน่ใจว่ายาไม่มีสาร Avermectin ถ้าไม่มั่นใจให้เลือกสูตรที่ผ่านการแนะนำจากสัตวแพทย์ไทย
จากการสำรวจโดย International Pet Owner Behavior Study ปี 2023
38% ของเจ้าของหมาที่พบอาการผิดปกติเล็กน้อย เช่น ขับถ่ายแปลก หรืออารมณ์เปลี่ยนแปลงหลังได้รับยา ไม่ได้แจ้งสัตวแพทย์
การแจ้งผลข้างเคียง แม้เพียงเล็กน้อย ช่วยให้สัตวแพทย์ปรับสูตรยาได้
หากมีอาการแบบเดิมทุกครั้งที่ให้ยาเดิม อาจบ่งชี้ว่า “น้องแพ้ยานั้น”
การจดบันทึกเวลาการให้ยา + อาการหลังให้ จะช่วยคุณและหมอวินิจฉัยได้เร็วขึ้น
กลเม็ด: ถ่ายวิดีโออาการของหมาไว้ ถ้าไม่แน่ใจว่าผิดปกติหรือไม่ แล้วส่งให้คุณหมอดูประกอบการตัดสินใจ
ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประเทศไทย
ระบุว่า ยาสำหรับสัตว์ที่ไม่มีทะเบียน อย. หรือซื้อจากแหล่งไม่ชัดเจน อาจมีสารตกค้างหรือไม่ได้คุณภาพสูงถึง 47%
ผลที่ตามมา:
ประสิทธิภาพต่ำ
หมายังป่วยอยู่ หรือป่วยมากขึ้น
เกิดการดื้อยาในระยะยาว
ซื้อยาผ่านช่องทางที่ได้รับการรับรอง เช่น คลินิก สัตวแพทย์ ร้านขายยาเฉพาะทาง
หลีกเลี่ยงยาปลอมจากโซเชียลหรือกลุ่มตลาดออนไลน์ที่ไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้
ข้อควรรู้: ยาสุนัขไม่จำเป็นต้องแพง แต่ต้องได้มาตรฐาน! ถ้าเจอราคาถูกเกินจริง ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจไม่ปลอดภัย
ยาสำหรับน้องหมาไม่ได้ “ปลอดภัย 100%” สำหรับทุกตัว
เพราะร่างกายของหมาแต่ละตัวตอบสนองไม่เหมือนกัน บางตัวแพ้ยา บางตัวย่อยยาช้า บางตัวมีโรคแฝงที่ทำให้ยาออกฤทธิ์ผิดปกติ
หน้าที่ของเจ้าของอย่างเราคือ สังเกตอาการหลังให้ยา และแจ้งหมอทันทีเมื่อมีอะไรผิดปกติ เพื่อให้เขาอยู่กับเราได้อย่างปลอดภัยและแข็งแรงนานที่สุดครับ
#ผลข้างเคียงจากยาหมา #รู้ก่อนให้ยาน้องหมา #ยาปลอดภัยต้องมีมาตรฐาน #สังเกตอาการหลังให้ยา #Lazadogดูแลน้องหมาอย่างมืออาชีพ
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com