เปิด 5 สถิติน่ารู้ “แอนาฟิแล็กซิสในหมา” แพ้รุนแรงที่อาจเกิดจากแค่ “เห็บกัด” หรือ “กินไก่!” (อัปเดท 2025)

Apr 17, 2025
healthy สุขภาพ
เปิด 5 สถิติน่ารู้ “แอนาฟิแล็กซิสในหมา” แพ้รุนแรงที่อาจเกิดจากแค่ “เห็บกัด” หรือ “กินไก่!” (อัปเดท 2025)

เปิด 5 สถิติน่ารู้ “แอนาฟิแล็กซิสในหมา” แพ้รุนแรงที่อาจเกิดจากแค่ “เห็บกัด” หรือ “กินไก่!”

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “แอนาฟิแล็กซิส” เวลาคนแพ้อาหารทะเล หรือแพ้ยารุนแรง
แต่รู้หรือไม่ว่า... สุนัขก็เป็นแอนาฟิแล็กซิสได้เหมือนกัน!
และที่สำคัญคือ อาการมันมาแบบ “ฉับพลัน รุนแรง และอันตรายถึงชีวิตภายใน 15–30 นาที” ถ้าไม่รู้ทัน

วันนี้ผมจะพาคุณมาเปิด 5 สถิติน่ารู้เกี่ยวกับภาวะ แอนาฟิแล็กซิสในหมา (Canine Anaphylaxis)
ว่ามันเกิดจากอะไร สังเกตยังไง และจะรับมือยังไงให้ปลอดภัยทันเวลา!


1. แอนาฟิแล็กซิสในหมา “พบได้ 1–2% ของเคสฉุกเฉินในคลินิกสัตวแพทย์” แต่เป็นเคสที่อันตรายสูงสุด

จากสถิติของ American College of Veterinary Emergency and Critical Care
ระบุว่าแม้โอกาสเกิดจะน้อย แต่ อัตราการเสียชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาใน 1 ชั่วโมงแรกสูงถึง 60%
โดยเฉพาะในหมาขนาดเล็กและลูกสุนัข

สาเหตุที่พบได้บ่อย:

  • ยาฉีดหรือวัคซีนบางชนิด

  • อาหารที่แพ้รุนแรง (เช่น ไก่, ข้าวโพด, นม)

  • เห็บหมัดกัด

  • ยาฆ่าหมัด/ยากำจัดพยาธิแบบหยดหลัง

  • การถูกผึ้งหรือแมลงมีพิษต่อย

ข้อควรรู้: อาการอาจเกิดขึ้นทันที หรือภายในไม่กี่นาทีหลังได้รับสารก่อภูมิแพ้


2. อาการแอนาฟิแล็กซิสในหมา “ไม่เหมือนคน” — ระวังเข้าใจผิดว่าแค่น้องเหนื่อยหรือร้อน

ในคน เรามักจะเห็นลมพิษหรือหน้าบวมก่อน
แต่ในหมา ภาวะนี้จะโจมตี อวัยวะภายใน โดยตรง เช่น หัวใจ, ปอด, ทางเดินหายใจ และลำไส้

อาการที่ควรสงสัยทันที:

  • ล้มลงทันที

  • หายใจแรง เหนื่อย หอบ

  • น้ำลายฟูมปากหรือชัก

  • ขาเย็น ตัวซีด

  • อาเจียนหรือถ่ายเป็นเลือด

เทคนิค: ถ้าน้องมีประวัติแพ้อะไรแรงๆ และจู่ๆ ซึมลงอย่างรวดเร็ว อย่ารอดูอาการ ให้พาไปหาหมอทันที!


3. หมาที่เคยเกิดแอนาฟิแล็กซิส 1 ครั้ง “มีโอกาสเกิดซ้ำอีกสูงถึง 70% หากได้รับสารเดิม”

อันนี้สำคัญมาก! เพราะหลายบ้านคิดว่ารอดแล้วจะไม่เป็นอีก
แต่ในความเป็นจริง... การสัมผัสกับสิ่งเดิมซ้ำ (เช่น อาหาร ยา หรือเห็บกัด)
จะทำให้ร่างกายตอบสนองเร็วขึ้น รุนแรงขึ้น และอาจถึงขั้นหยุดหายใจภายในไม่กี่นาที

ตัวอย่าง:

  • หมาที่เคยแพ้ข้าวโพด → ได้กินอีกโดยไม่รู้ → ล้มทันที

  • แพ้ยาหยอดหลัง → ใช้ซ้ำอีก → เกิดภาวะช็อก

ข้อควรรู้: จดบันทึกสิ่งที่แพ้ และแจ้งสัตวแพทย์ทุกครั้งที่พาน้องไปรับวัคซีนหรือกินยา


4. ยาฉุกเฉินสำหรับแอนาฟิแล็กซิส “คืออีพิเนฟริน” และต้องฉีดโดยสัตวแพทย์เท่านั้น

ไม่สามารถรอ หรือรักษาเองที่บ้านได้!
การให้ยาเร็วคือสิ่งเดียวที่ช่วยชีวิตได้ โดยสัตวแพทย์จะใช้ Epinephrine (อะดรีนาลีน) ฉีดเข้าใต้ผิวหนังหรือเข้ากล้าม

การรักษาร่วม:

  • ให้ IV fluids ป้องกันความดันตก

  • ให้ออกซิเจนเสริม

  • ใช้ยาแก้แพ้/สเตียรอยด์ควบคุมการอักเสบ

  • เฝ้าระวังหัวใจและระบบทางเดินหายใจอย่างใกล้ชิด

เคล็ดลับ: ถ้ามีน้องหมาที่เคยเป็น ควรมี “บัตรแพ้ยา/สาร” ติดกรงหรือกระเป๋าพาออกนอกบ้าน


5. การป้องกันง่ายที่สุดคือ “ระวังสารกระตุ้นที่เสี่ยง” และสังเกตอาการหลังสัมผัส 2 ชั่วโมงแรก

หลังพาน้องไปรับวัคซีนใหม่ กินอาหารใหม่ หรือใช้ยาหยดหลังใหม่
ควรเฝ้าสังเกตอาการ 1–2 ชั่วโมงแรกให้ดี อย่าปล่อยให้น้องอยู่คนเดียว หรือพาออกนอกบ้านทันที

สิ่งที่ควรทำ:

  • อยู่กับน้องใกล้ชิด 2 ชม.หลังฉีดยา/วัคซีน

  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่เคยกินมาก่อนในปริมาณมาก

  • ถ้าน้องเคยแพ้อะไร ให้แจ้งสัตวแพทย์และร้านอาหารสัตว์เสมอ

  • หากมี “ยาแพ้เฉียบพลัน” ที่เคยใช้ ต้องพกเอกสารหรือบอกคนใกล้ชิดให้รู้

เทคนิค: ถ่ายภาพอาหาร/ยา/สถานการณ์ที่เคยทำให้น้องแพ้เก็บไว้ในมือถือ เอาไว้แชร์กับคุณหมอเวลาฉุกเฉินได้เร็วขึ้นครับ


แอนาฟิแล็กซิสในหมาเป็นภาวะที่แม้จะเกิดไม่บ่อย... แต่เมื่อเกิดขึ้น ต้องรับมือให้เร็วที่สุด
เพราะจากหมาที่ดูแข็งแรงดี อาจช็อกได้ในเวลาไม่ถึง 15 นาที
การรู้เท่าทัน สังเกตเป็น และรีบพาไปหาหมอคือสิ่งเดียวที่ช่วยน้องหมาให้รอดจากภาวะนี้ได้ครับ!


#หมาแพ้รุนแรงต้องรู้ทัน #แอนาฟิแล็กซิสในหมาอันตรายจริง #แพ้ยาหมาอย่านิ่งนอนใจ #Lazadogเตือนภัยสัตว์เลี้ยง #สังเกตหมาให้ไวช่วยชีวิตได้


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts