เปิด 5 สถิติน่ารู้ “หัวใจหมาเต้นผิดจังหวะ” โรคเงียบที่อาจพรากน้องหมาไปแบบไม่ทันตั้งตัว
ถ้าคุณเคยได้ยินเสียงหัวใจน้องหมาเต้นแปลกๆ จังหวะเร็วบ้าง ช้าบ้าง หรือเหมือนขาดๆ หายๆ
อย่าเพิ่งคิดว่าแค่น้องตื่นเต้น เพราะอาจเป็นสัญญาณของ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะในสุนัข (Arrhythmia in Dogs)
โรคที่ไม่ส่งเสียงดัง แต่ส่งผลร้ายถึงชีวิตได้เลย
วันนี้ผมจะพาคุณมาเจาะลึก “5 สถิติน่ารู้” เกี่ยวกับโรคนี้ พร้อมเคล็ดลับและแนวทางรับมือจากมุมของเจ้าของหมาที่รักน้องเหมือนคนในครอบครัวครับ
จากรายงานของ Journal of Veterinary Cardiology และข้อมูลจาก American College of Veterinary Internal Medicine (ACVIM)
พบว่า มากถึง 10–15% ของหมาที่มีอาการเหนื่อยง่าย ซึม หรือเป็นลม ล้วนมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
เหนื่อยง่ายผิดปกติ วิ่งนิดเดียวก็หอบ
เป็นลมเฉียบพลันโดยไม่มีเหตุ
ตัวสั่น ซึม หรือหายใจไม่สม่ำเสมอ
หัวใจเต้นช้าหรือเร็วผิดปกติ (วัดด้วย Stethoscope หรือ ECG เท่านั้น)
ข้อควรรู้: โรคนี้มักไม่มีสัญญาณเตือนชัดเจนในช่วงแรก และบางตัวเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันโดยไม่เคยมีอาการมาก่อนเลยครับ
สายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ เช่น โดเบอร์แมน (Doberman), บ็อกเซอร์ (Boxer), เยอรมันเชพเพิร์ด (German Shepherd)
เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเกิด Ventricular Arrhythmia (หัวใจเต้นผิดจังหวะในห้องล่าง) ซึ่งเป็นรูปแบบที่อันตรายที่สุด
กล้ามเนื้อหัวใจมีขนาดใหญ่ → ใช้พลังงานมาก → เสี่ยงต่อการเสียสมดุลของไฟฟ้าหัวใจ
ระบบการนำไฟฟ้าในหัวใจมีโอกาสเกิดความผิดปกติสูง
พบการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับจังหวะหัวใจ
เทคนิค: หากเลี้ยงพันธุ์ใหญ่ ควรพาไปตรวจหัวใจด้วยคลื่นไฟฟ้า (ECG) อย่างน้อยปีละครั้ง โดยเฉพาะเมื่ออายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไปครับ
หัวใจเต้นผิดจังหวะไม่ได้หมายความว่าหัวใจมีปัญหาเสมอไปนะครับ
บางครั้งมันคือผลจากโรคอื่น เช่น:
โรคปอดเรื้อรัง (Chronic Lung Disease) → ขาดออกซิเจน ส่งผลให้หัวใจพยายามทำงานหนัก
ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ (Hyperthyroidism)
เนื้องอกในหัวใจหรือบริเวณใกล้เคียง
ข้อควรรู้: การรักษา Arrhythmia ต้องวิเคราะห์ “ต้นเหตุ” ให้ชัดก่อน เช่นเดียวกับการหาว่าใครขโมยข้าวน้องหมา ไม่งั้นรักษาแค่ปลายเหตุ น้องอาจกลับมาเป็นอีกได้ครับ
การวินิจฉัยหัวใจเต้นผิดจังหวะในหมา ไม่สามารถฟังจากหูเปล่าได้เสมอไป ต้องอาศัยเครื่องมือที่เรียกว่า Electrocardiogram (ECG)
ซึ่งสามารถบอกได้ว่าเป็นชนิดไหน เร็วเกินไป (Tachycardia), ช้าเกินไป (Bradycardia) หรือหยุดชั่วขณะ (Asystole)
ECG: ตรวจจังหวะไฟฟ้าหัวใจ
Holter Monitor: ติดเครื่องวัดตลอด 24–48 ชั่วโมง (ใช้ในหมาที่มีอาการเป็นลมเฉียบพลัน)
Echocardiogram: ตรวจขนาดห้องหัวใจและกล้ามเนื้อหัวใจ
เคล็ดลับ: อย่ารอให้น้องหมดสติหรือเป็นลมก่อนถึงจะพาไปตรวจก็ได้นะครับ โดยเฉพาะหมาสูงวัยควรตรวจหัวใจเป็นประจำ
ข่าวดีคือ หากตรวจพบเร็วและได้รับการดูแลที่เหมาะสม
หมาที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ 70–80% และอายุขัยก็ไม่ลดลงมากนัก
ยาควบคุมจังหวะหัวใจ เช่น Sotalol, Mexiletine
อุปกรณ์ช่วยเต้นหัวใจ (Pacemaker) – ใช้ในรายหัวใจเต้นช้าผิดปกติ
รักษาโรคต้นเหตุที่กระทบหัวใจ เช่น ไทรอยด์หรือปอด
การปรับพฤติกรรม เช่น หลีกเลี่ยงการตื่นเต้นหรือออกกำลังหนักเกินไป
ข้อควรรู้: หมาไม่จำเป็นต้องวิ่งตลอดชีวิต เขาแค่อยากมีคนอยู่ข้างๆ ที่เข้าใจและพร้อมดูแลในทุกจังหวะหัวใจครับ
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะในสุนัขอาจไม่แสดงอาการชัดเจน
แต่มันคือโรคเงียบที่สามารถพรากน้องไปได้หากมองข้ามสัญญาณ
การตรวจหัวใจประจำปี โดยเฉพาะในหมาพันธุ์ใหญ่หรือสูงวัย คือตัวช่วยสำคัญที่เจ้าของควรใส่ใจ
และถ้าเจอเร็วก่อนจะสาย น้องหมาของคุณก็จะยังคงอยู่เป็นจังหวะที่อบอุ่นในบ้านไปอีกนานครับ
#หัวใจหมาเต้นผิดจังหวะไม่ควรมองข้าม #ตรวจหัวใจหมาไว้ก่อนจะสาย #หมาหอบง่ายอย่าชะล่าใจ #รักหมาต้องดูแลหัวใจด้วย #Lazadogห่วงใยทุกจังหวะหัวใจหมา
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com