เปิด 5 สถิติน่ารู้ “แอสไพรินเป็นพิษในหมา” ยาแก้ปวดของคนที่อาจเปลี่ยนเป็นพิษเงียบถึงชีวิต (อัปเดท 2025)

Apr 18, 2025
healthy สุขภาพ
เปิด 5 สถิติน่ารู้ “แอสไพรินเป็นพิษในหมา” ยาแก้ปวดของคนที่อาจเปลี่ยนเป็นพิษเงียบถึงชีวิต (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

เปิด 5 สถิติน่ารู้ “แอสไพรินเป็นพิษในหมา” ยาแก้ปวดของคนที่อาจเปลี่ยนเป็นพิษเงียบถึงชีวิต

“หมาน่าจะปวด… ขอให้กินแอสไพรินเม็ดนึงละกัน”
เคยได้ยินใครพูดแบบนี้ไหมครับ?

แม้แอสไพริน (Aspirin) จะเป็นยารักษาอาการปวด บวม หรือไข้ในคนมาหลายสิบปี
แต่สำหรับน้องหมาแล้ว แอสไพรินไม่ใช่ยาที่ปลอดภัยเสมอไป โดยเฉพาะเมื่อเจ้าของให้เองโดยไม่ปรึกษาหมอ
และอาการพิษจากแอสไพรินในหมานั้นไม่ธรรมดา เพราะอาจกระทบตั้งแต่ระบบย่อยอาหาร ตับ ไต ไปจนถึงระบบประสาทเลยทีเดียว

วันนี้ผมจะพาคุณมาเจาะลึก “5 สถิติน่ารู้” เกี่ยวกับพิษจากแอสไพรินในน้องหมา พร้อมเทคนิคที่เจ้าของควรรู้ไว้ก่อนจะสายครับ!


1. พิษจากแอสไพรินเป็นหนึ่งใน “3 อันดับแรกของสารที่เจ้าของให้หมากินเองแล้วเกิดพิษ”

จากรายงานของ ASPCA Animal Poison Control Center พบว่า
เจ้าของให้น้องหมากินยาแก้ปวดคนโดยไม่ปรึกษาหมอ เป็นสาเหตุหลักของการเกิดพิษจากยาในหมา
และ แอสไพรินอยู่ใน 3 อันดับแรกของยาที่ทำให้เกิดเคสฉุกเฉิน

เหตุผลที่เจ้าของมักเข้าใจผิด:

  • คิดว่าแอสไพริน “ปลอดภัยเพราะคนกินได้”

  • บางเว็บไซต์แนะนำขนาดแบบคร่าวๆ ทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน

  • ซื้อยามาเองจากร้านขายยาทั่วไปโดยไม่มีคำแนะนำจากสัตวแพทย์

ข้อควรรู้: แอสไพรินที่กินในปริมาณที่เกินค่าที่แนะนำสำหรับหมาแค่ 2–3 เท่า อาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะ เลือดออกในลำไส้ และไตวายได้เลยครับ


2. หมาที่ได้รับแอสไพรินขนาดเกิน “มีอัตราการเกิดแผลในกระเพาะสูงถึง 60% ภายใน 48 ชั่วโมงแรก”

ข้อมูลจาก Veterinary Drug Handbook ระบุว่า
แอสไพรินจะรบกวนเยื่อบุในกระเพาะอาหารและลำไส้ของหมาโดยตรง
และในหมาที่ได้รับยาเกินขนาดเพียงเล็กน้อย
มีโอกาสเกิดแผลหรือเลือดออกในทางเดินอาหารสูงถึง 60% ภายใน 2 วันแรก

สัญญาณเตือน:

  • อาเจียน หรืออาเจียนเป็นเลือด

  • ถ่ายดำ/มีเลือด

  • เบื่ออาหาร ซึม อ่อนแรง

  • ตัวเย็น เหงือกซีด

เทคนิค: หากคุณให้แอสไพรินไปแล้ว แล้วน้องเริ่มมีอาการผิดปกติ อย่ารอ ให้รีบไปโรงพยาบาลสัตว์ทันที


3. แอสไพรินสะสมในร่างกายหมา “นานกว่าคนถึง 3 เท่า” ทำให้เสี่ยงต่อพิษแม้จะให้แบบวันเว้นวัน

หมาไม่สามารถขับยาออกจากร่างกายได้เร็วเหมือนคน
แอสไพรินมีค่าครึ่งชีวิต (Half-life) ในหมานานถึง 37 ชั่วโมง ในขณะที่คนเพียง 12 ชั่วโมง
นั่นหมายความว่า การให้ยาวันเว้นวัน อาจทำให้ยาสะสมในร่างกายจนถึงระดับเป็นพิษได้

ความเสี่ยงจากการสะสม:

  • พิษต่อไตและตับ

  • เกิดภาวะเลือดไม่แข็งตัว

  • ชัก หรือภาวะซึมลึก

  • หายใจลำบาก

ข้อควรรู้: อย่าให้ยาต่อเนื่องเกิน 3 วันโดยไม่มีการตรวจเลือด หรือตรวจค่าตับ-ไตจากสัตวแพทย์


4. พิษแอสไพรินในลูกหมา “รุนแรงกว่าหมาโตหลายเท่า” โดยเฉพาะในพันธุ์เล็ก

ลูกหมาอายุต่ำกว่า 6 เดือน หรือหมาพันธุ์เล็ก (น้ำหนักต่ำกว่า 5 กก.)
มีความเสี่ยงต่อพิษจากแอสไพรินสูงกว่า 3–5 เท่า เพราะตับและไตยังพัฒนาไม่เต็มที่
แถมเจ้าของมักคำนวณขนาดยาผิดพลาด เนื่องจากใช้เม็ดยามาตรฐานที่ออกแบบมาสำหรับ “คน”

เคสอันตรายที่พบบ่อย:

  • เจ้าของหักแอสไพริน 1/4 เม็ดให้ลูกหมาพันธุ์ชิวาวา = มากเกินไป

  • ให้ซ้ำเพราะเห็นว่าน้องยังไม่หายปวด

  • ไม่รู้ว่ายาในบ้านเป็นสูตร Enteric-coated หรือ Extended-release ซึ่งดูดซึมต่างจากสูตรธรรมดา

เทคนิค: หากคุณเลี้ยงหมาพันธุ์เล็ก ควรปรึกษาหมอก่อนให้ยาทุกชนิด ไม่เว้นแม้แต่พาราหรือแอสไพรินครับ


5. ถ้ารู้ตัวเร็วและพาไปหาหมาไว “โอกาสรอดชีวิตมากกว่า 90%” โดยเฉพาะภายใน 2 ชั่วโมงแรก

ข่าวดีคือ พิษจากแอสไพรินสามารถจัดการได้ ถ้าไปหาหมอเร็ว
ในกรณีที่รู้ตัวว่าหมากินยาไปไม่เกิน 2 ชั่วโมง การทำให้อาเจียนและให้ Activated Charcoal ช่วยลดการดูดซึมของพิษได้ถึง 80%

การรักษาเบื้องต้นที่หมออาจใช้:

  • ทำให้อาเจียน + ให้ถ่านดูดพิษ

  • ให้น้ำเกลือเข้าหลอดเลือด

  • ให้ยาป้องกันแผลในกระเพาะ

  • ตรวจเลือดติดตามค่าตับ ไต และภาวะเลือดออก

เคล็ดลับ: อย่าปล่อยให้ “พิษแอสไพริน” กลายเป็นเรื่องใหญ่จากความหวังดีโดยไม่รู้ครับ
ให้สัตวแพทย์เป็นคนวางแผนการรักษาแทนเราจะปลอดภัยที่สุด


แม้แอสไพรินจะเป็นเพื่อนรักของมนุษย์ยามปวดหัว แต่สำหรับหมา มันอาจเป็นศัตรูที่คุกคามชีวิต
การให้ยามนุษย์กับหมาโดยไม่รู้ปริมาณหรือผลข้างเคียง อาจทำให้เกิดพิษรุนแรงที่กระทบตั้งแต่กระเพาะถึงสมอง

จำไว้นะครับว่า “รักน้องหมา = ปรึกษาหมอทุกครั้งก่อนให้ยา”
เพราะสิ่งที่เราคิดว่าดี อาจกลายเป็นโทษร้ายโดยที่เราไม่ตั้งใจ


#หมาห้ามกินแอสไพรินเอง #ยาคนไม่ใช่ยาหมา #พิษยาในหมาอันตรายจริง #รักหมาต้องรู้ก่อนให้ยา #Lazadogเตือนภัยจากยาทั่วไป


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts