เปิด 5 สถิติน่ารู้ “ติ่งเนื้อลำไส้ตรงในน้องหมา” อึมีเลือด อย่าคิดว่าแค่ท้องผูก

ถ้าวันหนึ่งคุณกำลังเก็บอึน้องหมา แล้วเห็น “เลือดสดปนมากับอึ”
หรือสังเกตว่าน้องเบ่งอยู่นานแต่ไม่ค่อยออก แถมยังเลียก้นตัวเองบ่อยผิดปกติ
อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเป็นแค่ “ท้องผูก” หรือ “ริดสีดวงในหมา” นะครับ
เพราะอาจเป็นสัญญาณของ “ติ่งเนื้อลำไส้ตรง (Rectoanal Polyps)” ซึ่งต้องได้รับการวินิจฉัยอย่างละเอียด

วันนี้ผมจะพาคุณมา เปิด 5 สถิติน่ารู้เกี่ยวกับโรคติ่งเนื้อลำไส้ตรงในสุนัข
เพื่อให้คุณเข้าใจได้แบบไม่เครียด และรู้วิธีดูแลน้องหมาให้ปลอดภัยจากโรคนี้ครับ!

1. 1–3% ของน้องหมาที่มีอาการอึมีเลือด “เกิดจากติ่งเนื้อในลำไส้ตรงหรือทวารหนัก”

จากข้อมูลของ Veterinary Pathology Journal (2021)
พบว่าติ่งเนื้อลำไส้ตรง (Rectoanal Polyps) เป็น ก้อนเนื้อชนิดไม่ร้าย (benign tumor)
ซึ่งมักพบบ่อยในสุนัขอายุ 6 ปีขึ้นไป และมักแสดงอาการเป็น “อึมีเลือดสดตอนท้าย” หรือ “เบ่งนาน”

อาการบ่งชี้:

• อึมีเลือดแดงสด

• เบ่งนาน แต่อึออกน้อย

• เลียก้นบ่อยผิดปกติ

• มีก้อนนูนบริเวณขอบทวาร

ข้อควรรู้: ติ่งเนื้อชนิดนี้ไม่ใช่มะเร็ง แต่ถ้าทิ้งไว้นานอาจกลายเป็นเซลล์ผิดปกติที่ลุกลามได้

2. มากกว่า 70% ของติ่งเนื้อชนิดนี้ “พบในหมาเพศผู้” โดยเฉพาะที่ยังไม่ได้ทำหมัน

งานวิจัยจาก American Journal of Veterinary Research
ระบุว่าหมาเพศผู้มีแนวโน้มเป็นโรคนี้มากกว่าหมาเพศเมียเกือบ 2 เท่า
และพบมากในสายพันธุ์ขนาดกลางถึงใหญ่ เช่น บีเกิล, ลาบราดอร์, บูลด็อก

กลเม็ด:

• หมาเพศผู้ที่ยังไม่ทำหมัน มีฮอร์โมนเพศที่กระตุ้นการอักเสบได้ง่ายกว่า

• การทำหมันอาจลดความเสี่ยงการเกิดซ้ำหลังการผ่าตัด

• ตรวจสุขภาพก้นและลำไส้ตรงปีละครั้งในหมาอายุมากกว่า 6 ปี

เทคนิค: ถ้าเห็นน้องเบ่งนาน อย่าคิดว่าแค่เขินเวลาเข้าห้องน้ำนะครับ ต้องเริ่มหาสาเหตุแล้ว!

3. การผ่าตัดเอาติ่งเนื้อออก “มีโอกาสหายขาดถึง 85%” หากตรวจเจอตั้งแต่ขนาดเล็ก

จากข้อมูลของ Cornell University College of Veterinary Medicine
ระบุว่า หากติ่งเนื้อยังอยู่เฉพาะจุด และไม่ลุกลามเข้าชั้นลึกของผนังลำไส้
สามารถผ่าตัดออกได้ง่าย และหายขาดโดยไม่ต้องให้ยาเคมีบำบัดหรือฉายแสง

สิ่งที่สัตวแพทย์มักทำ:

• ตรวจด้วยนิ้วผ่านทางทวาร

• ส่องกล้องตรวจลำไส้ตรง (Endoscopy)

• เก็บชิ้นเนื้อเพื่อตรวจพยาธิสภาพ

ข้อควรรู้: การตรวจแต่เนิ่นๆ สำคัญที่สุด เพราะพอขนาดเกิน 2 ซม. การผ่าตัดอาจซับซ้อนขึ้นและเจ็บกว่านะครับ

4. 1 ใน 4 ของหมาที่เป็นโรคนี้ “มีภาวะท้องผูกเรื้อรังร่วมด้วย” จนทำให้เจ้าของเข้าใจผิดเป็นปัญหาการขับถ่ายธรรมดา

จากการศึกษาของ Journal of Comparative Pathology
หมาที่มีติ่งเนื้อลำไส้ตรงมักมีอาการเบ่งอึไม่ออก หรืออึเป็นเม็ดเล็กๆ และมีอาการปวดท้องเป็นช่วงๆ
ทำให้เจ้าของหลายคนเข้าใจว่าแค่กินไฟเบอร์น้อย หรือไม่ดื่มน้ำพอ

วิธีแยกอาการ:

• ถ้าเพิ่มใยอาหารแล้วอึยังผิดปกติ = ต้องตรวจ

• ถ้าอึมีเลือดสดติดปลายอึ = ไม่ใช่ท้องผูกธรรมดา

• ถ้าน้องพยายามเบ่งแต่ไม่ค่อยออก = สงสัยภาวะอุดตัน

กลเม็ด: ใช้ไฟฉายช่วยส่องก้นน้องเบื้องต้น ถ้าเห็นตุ่มนูนหรือบวมแดง = ต้องพบหมอทันที

5. ถ้าไม่ได้ผ่าตัด และปล่อยไว้นาน “อาจกลายเป็นก้อนเนื้อร้าย (Adenocarcinoma) ได้ในบางกรณี”

แม้ติ่งเนื้อส่วนใหญ่จะเป็นแบบไม่ร้าย
แต่จากการเก็บข้อมูลของ National Veterinary Cancer Registry (NVCR)
พบว่า ติ่งเนื้อที่ไม่ได้รับการรักษานานเกิน 12 เดือน มีโอกาสกลายเป็นมะเร็งลำไส้ตรงในหมาได้ประมาณ 8–12%

สัญญาณเตือนว่าอาจรุนแรง:

• มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ

• น้องเริ่มเบื่ออาหาร น้ำหนักลด

• เลือดออกทุกครั้งที่อึ

• ก้อนนูนแข็งขึ้นและโตเร็ว

ข้อควรรู้: การวินิจฉัยด้วยพยาธิสภาพ (histopathology) เป็นทางเดียวที่จะยืนยันได้ว่า “ติ่งนี้ร้ายหรือไม่”

แม้ “ติ่งเนื้อบริเวณทวาร” จะฟังดูไกลตัว แต่ถ้าเจ้าของสังเกตสัญญาณให้ดี — น้องก็จะปลอดภัยมากขึ้นหลายเท่า
จำไว้นะครับว่า อึมีเลือด เบ่งนาน เลียก้นบ่อย ไม่ใช่เรื่องขำๆ
อย่าปล่อยให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เพียงเพราะเราคิดว่า “หมาอาจจะแค่กินเผ็ดไปหน่อย” เท่านั้นเองครับ!

#อึมีเลือดไม่ธรรมดา #ติ่งเนื้อในหมารู้ไว้ก่อนสาย #หมาเบ่งนานต้องระวัง #Lazadogใส่ใจทุกปลายลำไส้ #สุขภาพทวารหมาก็สำคัญ

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com