เปิด 5 สถิติน่ารู้ “หมาพันธุ์ไม่แพ้ (Hypoallergenic)” มีจริงไหม? หรือแค่ฝัน?

สำหรับใครที่เป็นคนรักหมาแต่จามทุกครั้งที่หมาเดินผ่าน
หรืออยากเลี้ยงน้องหมาไว้ในคอนโดแต่กังวลว่า "เราจะทนขนหมาไหวเหรอ?"
คำว่า "Hypoallergenic Dog" หรือหมาพันธุ์ไม่แพ้" ก็คงโผล่ขึ้นมาในกูเกิลของคุณบ่อยพอๆ กับคำว่า "ขนหมาติดเสื้อเอาไงดี"

แต่คำถามก็คือ...
หมาที่ไม่ทำให้แพ้มีอยู่จริงไหม? หรือแค่โฆษณาหลอกใจคนจามเก่ง?

วันนี้ผมจะพาคุณมา เปิด 5 สถิติน่ารู้เกี่ยวกับหมาพันธุ์ไม่แพ้ (Hypoallergenic Dogs)
พร้อมคำตอบที่ชัดเจน กลเม็ดดูแล และสายพันธุ์ที่เหมาะกับคนแพ้ง่ายสุดๆ แบบไม่ต้องนั่งสั่งน้ำมูกทั้งวันครับ!

1. ไม่มีหมาที่ "ไม่ก่อภูมิแพ้ 100%" – แต่มีหมาที่ “ปล่อยสารก่อภูมิแพ้น้อยกว่า”

จากข้อมูลของ American College of Allergy, Asthma, and Immunology (ACAAI)
พบว่า สารก่อภูมิแพ้ในหมาไม่ได้มาจากขน แต่มาจากน้ำลาย น้ำมันบนผิวหนัง และสะเก็ดผิว
ดังนั้นแม้หมาจะไม่ผลัดขนเลย ก็ยังมีโอกาสทำให้คุณแพ้ได้อยู่ดี

แต่หมาบางพันธุ์:

• ผลิตโปรตีนน้อยลงในน้ำลายหรือผิวหนัง

• ไม่ผลัดขน หรือผลัดขนน้อยมาก

• มีผิวหนังที่แห้งสะอาด ดูแลง่าย

ข้อควรรู้: คำว่า "Hypoallergenic" ไม่ได้แปลว่า "ไม่แพ้" แต่แปลว่า "แพ้น้อยลง"

2. กว่า 70% ของคนที่แพ้ขนหมา “สามารถอยู่ร่วมกับหมาพันธุ์ Hypoallergenic ได้แบบไม่มีอาการ”

จากรายงานของ WALTHAM Petcare Science
เจ้าของที่มีอาการแพ้ระดับเล็กถึงกลาง สามารถใช้ชีวิตร่วมกับหมาที่เลือกพันธุ์ได้เหมาะสม และมีการดูแลสภาพแวดล้อมอย่างถูกวิธีโดยไม่แสดงอาการแพ้เลยถึง 70%

ปัจจัยที่ช่วยให้เลี้ยงหมาได้แม้แพ้ง่าย:

• พันธุ์หมาที่ไม่ผลัดขน (Non-shedding)

• การทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ

• การอาบน้ำหมาด้วยแชมพูสูตรลดสารก่อภูมิแพ้

• การใช้เครื่องกรองอากาศในห้อง

เทคนิค: แค่ดูแลเรื่องการอาบน้ำและดูแลบ้านให้สะอาด หมาก็ไม่จำเป็นต้องเป็นตัวการของจามอีกต่อไป

3. สายพันธุ์หมาที่ขึ้นชื่อว่า Hypoallergenic “มีอยู่ราว 10–15 สายพันธุ์” ที่นิยมทั่วโลก

จากข้อมูลของ American Kennel Club (AKC)
หมาพันธุ์ที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Hypoallergenic Dogs มีประมาณ 10–15 สายพันธุ์
โดยทั้งหมดมีคุณสมบัติเด่นร่วมกันคือ “ขนไม่ร่วงง่าย และผิวหนังดูแลง่าย”

ตัวอย่างพันธุ์ยอดฮิต:

• พุดเดิ้ล (Poodle)

• บิชอง ฟริเซ่ (Bichon Frise)

• ชเนาเซอร์ (Schnauzer)

• มอลทีส (Maltese)

• ลาก็อตต้า โรมาโญโล (Lagotto Romagnolo)

• ไอริช วอเตอร์ สแปเนียล (Irish Water Spaniel)

กลเม็ด: หมาพันธุ์พวกนี้ต้องการการตัดแต่งขนสม่ำเสมอ แต่ถ้าแลกกับบ้านที่ไม่มีขนลอยฟุ้ง ก็นับว่าคุ้ม

4. คนไทย 1 ใน 5 “แพ้ขนสัตว์เลี้ยงระดับเบา–ปานกลาง” แต่ไม่รู้ว่ามาจากโปรตีนในน้ำลายหมา

จากผลสำรวจของ Lazadog Allergy Insight ปี 2024
20.4% ของเจ้าของหมาในไทยมีอาการจาม คันตา หรือระคายผิวหลังเล่นกับน้องหมา
แต่ไม่รู้ว่าเกิดจาก สารโปรตีน Fel d 1 หรือ Can f 1 ในขนและน้ำลายของสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่เพราะ "แค่ขนลอยๆ"

วิธีลดสารก่อภูมิแพ้:

• แปรงขนให้น้องหมาเป็นประจำ

• เช็ดปากน้องหมาหลังทานอาหารหรือเลียมือ

• ซักผ้าและผ้าห่มของน้องทุกสัปดาห์

• ห้ามให้หมานอนบนเตียงเดียวกัน (ถ้าแพ้ง่าย)

ข้อควรรู้: ใช้เครื่องฟอกอากาศที่มี HEPA filter ช่วยลดสารในอากาศได้มากถึง 85%

5. บ้านที่เลี้ยงหมา Hypoallergenic + ดูแลความสะอาด “มีปริมาณสารก่อภูมิแพ้ในอากาศน้อยกว่าบ้านทั่วไปถึง 72%”

จากงานวิจัยของ Environmental Allergy Foundation
บ้านที่เลี้ยงหมาพันธุ์ Hypoallergenic และมีการทำความสะอาดประจำ
มีระดับสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ (เช่น Can f 1) ต่ำกว่าบ้านทั่วไปที่เลี้ยงหมาผลัดขนถึง 72%

เคล็ดลับเสริม:

• ใช้ผ้าคลุมโซฟาที่ซักง่าย

• เลือกพื้นไม้หรือกระเบื้องแทนพรม

• ทำความสะอาดห้องนอนบ่อยกว่าห้องอื่น

• ให้หมามีโซนพักผ่อนของตัวเอง

เทคนิค: แค่คุณกับหมาแยกที่นอนกัน ก็ช่วยลดอาการแพ้ได้เยอะโดยไม่ต้องแยกจากกันจริงๆ

หมาพันธุ์ไม่แพ้ (Hypoallergenic) อาจไม่ได้เป็น “หมาวิเศษ” ที่อยู่ด้วยแล้วจามหายทันที
แต่ถ้าคุณเลือกพันธุ์ให้เหมาะกับสภาพร่างกายตัวเอง + ดูแลสิ่งแวดล้อมให้สะอาด
ก็สามารถใช้ชีวิตกับน้องหมาได้อย่างแฮปปี้ โดยไม่ต้องจามใส่กันทุกเช้าเย็นครับ!

#หมาพันธุ์ไม่แพ้มีจริงนะรู้ยัง #เลี้ยงหมาแบบไม่จามฟึดฟัด #หมาไม่ผลัดขนคือเพื่อนคนแพ้ง่าย #HypoallergenicDog #Lazadogห่วงใยน้องหมาและคนแพ้หมาทุกคน

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com