เปิด 5 สถิติน่ารู้ “หมาแพ้แมว” มีจริงเหรอ? อยู่บ้านเดียวกันจะรอดไหม?

หลายบ้านเลี้ยงหมาแมวอยู่ด้วยกันแบบรักกันดี (หรือทะเลาะกันวันเว้นวัน)
แต่บางครั้งคุณอาจเริ่มสังเกตว่า... ทำไมน้องหมาจามบ่อย คันตา หรือหอบเบาๆ เวลาน้องแมวเข้าใกล้?
แล้วก็เริ่มสงสัยว่า “หมาแพ้แมว” มันมีจริงไหม หรือเราคิดไปเอง?

คำตอบคือ… มีครับ! และมันไม่ได้เป็นกันบ่อย แต่ถ้าเป็นแล้วก็ต้องดูแลแบบรู้ทัน ไม่งั้นน้องหมาจะไม่สบายตัวแบบไม่รู้สาเหตุไปอีกนาน

วันนี้ผมจะพาคุณมาเปิด 5 สถิติน่ารู้เกี่ยวกับภาวะหมาแพ้แมว (Dog Allergic to Cats)
พร้อมวิธีสังเกตอาการและเทคนิคดูแลน้องหมาให้ใช้ชีวิตร่วมกับแมวได้แบบไม่ต้องคอยจามใส่กันตลอดวันครับ

1. ประมาณ 5–10% ของหมาที่มีอาการแพ้ “เกิดจากสารก่อภูมิแพ้ที่มาจากแมว”

จากการศึกษาของ American College of Veterinary Dermatology (ACVD)
พบว่า ในกลุ่มหมาที่มีอาการแพ้ผิวหนังหรือทางเดินหายใจเรื้อรัง มีประมาณ 5–10% ที่แพ้โปรตีนในน้ำลายและสะเก็ดผิวหนังของแมว

สารก่อภูมิแพ้ที่เกี่ยวข้อง:

• Fel d 1: โปรตีนในน้ำลายแมวที่ติดอยู่ตามขน

• สะเก็ดผิวหนัง (Dander): สะเก็ดจิ๋วที่หลุดจากผิวแมว

• ขนแมว: ที่ติดเฟอร์นิเจอร์หรือปลิวในอากาศ

• สารจากอุ้งเท้าแมว: ที่ติดกลับมาจากกระบะทราย

ข้อควรรู้: หมาที่แพ้แมว มักจะแพ้แบบ “ไม่ทันที” แต่แสดงอาการเรื่อยๆ จากการสะสม

2. 78% ของเจ้าของ “ไม่รู้ว่าน้องหมาแพ้แมว เพราะคิดว่าแค่แพ้ฝุ่นหรือไร”

จากผลสำรวจของ Lazadog Petcare Insight ปี 2024
เจ้าของส่วนใหญ่มองว่าอาการคัน จาม หรือหายใจครืดคราดของหมามาจากฝุ่นในบ้านหรือภูมิแพ้ทั่วไป
ทั้งที่จริงๆ แล้วอาจมาจากแมวตัวโปรดที่อยู่ใกล้กันทุกวัน

สัญญาณเตือน:

• จามบ่อยเมื่อแมวอยู่ใกล้

• น้ำมูกไหล/คันตาเฉพาะช่วงที่เล่นกับแมว

• คันผิวหนังแบบไม่ทราบสาเหตุ

• หายใจมีเสียง หรือมีอาการเหมือนหอบเบาๆ

เทคนิค: ลองแยกห้องนอนหมาแมวชั่วคราว แล้วสังเกตว่าอาการดีขึ้นหรือไม่ใน 5–7 วัน

3. หมาที่แพ้แมว “มักมีปฏิกิริยาในระบบทางเดินหายใจมากกว่าผิวหนัง”

จากข้อมูลของ Tufts University Cummings School of Veterinary Medicine
พบว่า หมาที่แพ้แมวส่วนใหญ่จะแสดงอาการทางระบบทางเดินหายใจ เช่น จาม น้ำมูก หายใจเสียงดัง มากกว่าการคันผิวหนังแบบการแพ้อาหารหรือแพ้หญ้า

จุดสังเกต:

• หายใจลำบากหลังเล่นกับแมว

• จามติดกันหลายครั้งต่อวัน

• นอนหายใจแรง โดยเฉพาะเวลากลางคืน

• มีเสมหะ หรือไอแบบเหมือนขย้อน

ข้อควรรู้: อาการบางอย่างคล้ายโรคหลอดลมหดเกร็ง (Bronchitis) ถ้าไม่แน่ใจควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อแยกโรค

4. การทำความสะอาดบ้าน “ช่วยลดอาการแพ้จากแมวได้ถึง 60%”

จากงานวิจัยของ WALTHAM Petcare Science
พบว่า บ้านที่มีหมาแพ้แมว เมื่อทำความสะอาดเป็นประจำ เช่น ดูดฝุ่น ถูพื้น ล้างผ้าปูที่นอนแมว–หมา และใช้เครื่องกรองอากาศ จะช่วยลดอาการแพ้ในหมาได้มากถึง 60%

วิธีดูแลสภาพแวดล้อม:

• กำจัดขนแมวด้วยเครื่องดูดฝุ่นแบบมี HEPA filter

• ซักผ้าเบาะหรือผ้าห่มร่วมกันสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง

• หลีกเลี่ยงให้แมวเลียหน้าหมาหรือเล่นบนที่นอนหมาโดยตรง

• ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง

กลเม็ด: ใช้แปรงปัดขนแมวทุกวัน ช่วยลดปริมาณโปรตีนที่ฟุ้งในอากาศ

5. หมาที่แพ้แมว “ยังอยู่ร่วมกับแมวได้” ถ้ารู้วิธีปรับตัวและได้รับการดูแลที่เหมาะสม

หลายคนเข้าใจผิดว่า “หมาแพ้แมว = ต้องหาบ้านใหม่ให้แมว”
แต่จริงๆ แล้ว การจัดพื้นที่ให้แยกกันอย่างเหมาะสม บวกกับการรักษาอย่างถูกต้อง ช่วยให้หมาอยู่ร่วมกับแมวได้โดยไม่ต้องทรมาน

วิธีจัดการ:

• แยกพื้นที่นอน/เล่นของหมาและแมว

• ให้หมากินอาหารเสริมภูมิคุ้มกัน เช่น Omega-3

• ใช้ยาพ่น/ยาแก้แพ้เฉพาะในกรณีที่อาการรุนแรง (ตามสัตวแพทย์สั่ง)

• ใช้เครื่องกรองอากาศในจุดที่หมาอยู่เป็นประจำ

ข้อควรรู้: สัตวแพทย์สามารถทดสอบสารก่อภูมิแพ้แบบเฉพาะได้ (Allergy Testing) และแนะนำแนวทางเฉพาะบุคคล

หมาแพ้แมว… ฟังดูเหมือนละครน้ำเน่า แต่เป็นเรื่องจริงที่เจอได้แม้ไม่บ่อย
แค่เราเข้าใจอาการ สังเกตให้ทัน และจัดการสภาพแวดล้อมให้ดี น้องหมาก็สามารถอยู่ร่วมกับน้องแมวได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องแยกบ้านหรือเลือกใครสักคนครับ!

#หมาแพ้แมวมีจริงไม่จกตา #น้องหมาจามไม่ใช่เพราะฝุ่นเสมอไป #หมาแพ้แมวแต่ยังอยู่ด้วยกันได้ #Lazadogห่วงใยน้องหมาทุกระบบ #จัดบ้านให้น้องหมาหายใจคล่อง

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com