เปิด 5 สถิติน่ารู้ “หมาแพ้หญ้า” จริงหรือเวอร์? แล้วถ้าแพ้ต้องทำยังไง? (อัปเดท 2025)

Apr 16, 2025
การรับเลี้ยงและการดูแล
เปิด 5 สถิติน่ารู้ “หมาแพ้หญ้า” จริงหรือเวอร์? แล้วถ้าแพ้ต้องทำยังไง? (อัปเดท 2025)

เปิด 5 สถิติน่ารู้ “หมาแพ้หญ้า” จริงหรือเวอร์? แล้วถ้าแพ้ต้องทำยังไง?

เชื่อไหมครับว่า มีเจ้าของหมาหลายคนเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้...

พาน้องไปเดินเล่นที่สวน กลับบ้านมาแล้วหมาเลียเท้าไม่หยุด เกาขา ขนร่วง หรือบางทีก็คันจนร้อง
แล้วก็เริ่มสงสัยว่า “หรือหมาฉันจะแพ้... หญ้า?”

ใช่ครับ! หมาแพ้หญ้ามีอยู่จริง และมันไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่หลายคนคิด
วันนี้ผมจะพาคุณมาเปิด 5 สถิติน่ารู้เกี่ยวกับภาวะหมาแพ้หญ้า (Grass Allergy) พร้อมวิธีรับมือแบบไม่ต้องกักตัวน้องไว้ในบ้านทั้งชีวิตครับ!


1. มากกว่า 1 ใน 4 ของหมาที่มีปัญหาผิวหนัง “เกิดจากการแพ้หญ้าและเกสรในสนามหญ้า”

จากข้อมูลของ American College of Veterinary Dermatology (ACVD)
มากกว่า 25% ของหมาที่เข้ารับการรักษาอาการผิวหนังอักเสบ มีสาเหตุจากการแพ้หญ้าโดยตรงหรือแพ้สารก่อภูมิแพ้ที่มากับหญ้า เช่น เกสรดอกหญ้า เชื้อราบางชนิด หรือไรฝุ่นในสนามหญ้า

อาการที่พบบ่อย:

  • เลียอุ้งเท้าหลังเดินสนาม

  • เกาข้างตัว ขาหน้า หรือคาง

  • ขนร่วงเฉพาะจุด

  • ผื่นแดงตามง่ามนิ้ว รักแร้ หรือท้อง

ข้อควรรู้: หมาสายพันธุ์ขนสั้นที่ผิวสัมผัสหญ้าโดยตรงจะมีความเสี่ยงสูงกว่าสายพันธุ์ขนยาว


2. 70% ของเจ้าของ “ไม่รู้ว่าน้องหมาแพ้หญ้าหรือแพ้อะไร” เพราะอาการใกล้เคียงกัน

จากการสำรวจของ Lazadog Petcare Lab ปี 2024
พบว่า เจ้าของหมาจำนวนมากไม่สามารถแยกได้ระหว่าง “แพ้หญ้า” กับ “แพ้เห็บหมัด” หรือ “แพ้อาหาร” เพราะมีอาการคล้ายกัน

วิธีสังเกตความต่าง:

ประเภท จุดคันหลัก อาการร่วม
แพ้หญ้า เท้า ง่ามนิ้ว ท้อง เกาทันทีหลังเดินสนาม
แพ้อาหาร หู รอบปาก ท้อง ถ่ายเหลวร่วมด้วย
แพ้เห็บหมัด หลัง หาง คอ เจอเห็บ/หมัดบนตัว

เทคนิค: หากอาการคันเกิดเฉพาะหลังพาน้องไปสวน ให้สงสัย “หญ้า” เป็นอันดับแรก


3. หมาเลียเท้าหลังเดินสนามหญ้า “มีแนวโน้มเป็นภูมิแพ้หญ้าถึง 85%”

งานวิจัยจาก Tufts University Cummings School of Veterinary Medicine
พบว่า อาการเลียอุ้งเท้าหลังเดินสนามเป็นสัญญาณบ่งบอกอาการแพ้หญ้าได้ถึง 85%
โดยเฉพาะในหมาที่ทำซ้ำพฤติกรรมแบบนี้ทุกครั้งที่ออกไปเจอสนามหญ้า

สารก่อภูมิแพ้ในหญ้าที่พบบ่อย:

  • เกสรหญ้า

  • เชื้อราบางชนิด

  • ยาฆ่าแมลงหรือปุ๋ยเคมีในสนาม

  • ละอองเกสรจากดอกไม้ริมสนาม

กลเม็ด: ล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลืออุ่นทันทีหลังเดินสวน ลดการสะสมของสารก่อภูมิแพ้


4. หมาแพ้หญ้าที่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม “มีอาการคันลดลงเฉลี่ยใน 7 วัน”

จากการศึกษาของ WALTHAM Petcare Science
หมาที่ได้รับการดูแลหลังสัมผัสสนามหญ้า เช่น การล้างเท้า ทาโลชั่นบำรุง หรือใช้ยาป้องกันภูมิแพ้
มีอาการคันลดลงภายใน 5–7 วันในกว่า 80% ของเคส

วิธีดูแลหลังสัมผัสหญ้า:

  • ล้างเท้าด้วยน้ำเกลือ หรือสเปรย์สูตรลดแพ้

  • เช็ดตัวด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ

  • อาบน้ำด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยนสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง

  • ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมสร้างเกราะป้องกันผิวหนัง เช่น โลชั่นหรือครีมที่มี Oatmeal

เทคนิค: หากต้องพาน้องไปเดินสนามบ่อย ให้ลองใส่ถุงเท้าสุนัขหรือใช้ผ้ารองเท้าแบบบางป้องกันสารก่อภูมิแพ้


5. หมาที่ได้รับการวินิจฉัยจากสัตวแพทย์ “สามารถควบคุมอาการแพ้หญ้าได้มากกว่า 90%”

หลายคนคิดว่า "แพ้หญ้าแล้วจะต้องเลี่ยงหญ้าตลอดชีวิต"
แต่จริงๆ แล้วการวินิจฉัยโดยสัตวแพทย์ เช่น การทดสอบภูมิแพ้หรือการให้ยาภูมิคุ้มกันบำบัด
ช่วยควบคุมอาการแพ้ได้ในระยะยาว และหมาหลายตัวสามารถกลับไปเดินเล่นในสนามได้แบบไม่มีปัญหา

แนวทางการรักษาจากสัตวแพทย์:

  • การทดสอบภูมิแพ้ (Allergy testing)

  • ยาแก้แพ้เฉพาะตัว

  • สเปรย์ต้านการอักเสบเฉพาะจุด

  • การบำบัดภูมิคุ้มกันแบบเฉพาะบุคคล (Immunotherapy)

ข้อควรรู้: ยิ่งตรวจเจอเร็ว ยิ่งควบคุมอาการได้ง่ายและปลอดภัยในระยะยาว


หญ้า... ที่ดูเหมือนไร้พิษภัยสำหรับหมา อาจเป็นศัตรูเงียบของสุขภาพผิวหนังถ้าเราไม่สังเกตให้ดี
แต่อย่าเพิ่งรีบห้ามน้องออกนอกบ้าน เพราะแค่รู้ทัน ดูแลหลังเจอสนาม และพาไปปรึกษาสัตวแพทย์อย่างถูกจังหวะ หมาของคุณก็จะวิ่งเล่นในหญ้าได้แบบไม่มีน้ำตาครับ!


#หมาแพ้หญ้ามีจริงไม่ใช่มโน #คันเพราะสนามไม่ใช่เพราะขน #ดูแลหมาแพ้หญ้าแบบมืออาชีพ #น้องหมาแพ้ง่ายแต่เราดูแลได้ #Lazadogห่วงใยน้องหมาทุกฝีก้าว


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts