เผย 5 เทคนิค! ป้องกัน “ท็อกโซพลาสโมซิส” โรคจากแมวที่คนรักแมวไม่ควรกลัวเกินเหตุ (แต่ก็อย่าชะล่าใจ)

หากคุณเคยได้ยินใครสักคนพูดว่า “เลี้ยงแมวแล้วจะเป็นโรคจากแมวได้นะ ระวัง!”
หรือเจอประโยคสุดคลาสสิกอย่าง “คนท้องห้ามอยู่ใกล้แมวเด็ดขาด เดี๋ยวแท้ง!”

ฟังดูน่ากลัวใช่ไหมครับ?
แต่เดี๋ยวก่อน! สิ่งที่หลายคนเข้าใจนั้น... อาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมด

เพราะสิ่งที่เขาพูดถึงคือโรคที่ชื่อว่า ท็อกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis)
โรคที่เกี่ยวกับแมวก็จริง แต่ไม่ได้ติดต่อกันง่ายๆ อย่างที่ลือกันไปทั่ว

วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จัก “ท็อกโซพลาสโมซิส” แบบเข้าใจง่าย
พร้อม 5 เทคนิคป้องกันตัว สำหรับคนรักแมวแบบไม่ต้องกลัวจนเกินเหตุ และอยู่ร่วมกันอย่างมีสุขภาพดีทั้งคนและแมวครับ

1. ท็อกโซพลาสโมซิสคืออะไร? และแมวเกี่ยวข้องยังไง?

ท็อกโซพลาสโมซิสเกิดจากปรสิตชื่อ Toxoplasma gondii
โดยแมวเป็น “สัตว์ชนิดเดียวที่ขับเชื้อออกมาทางอุจจาระ” ได้เมื่อได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย

“แมวติดเชื้อส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการใดๆ และสามารถขับเชื้อออกมาได้เพียง 1–3 สัปดาห์ในชีวิตเท่านั้น”
– ข้อมูลจาก Centers for Disease Control and Prevention (CDC)

หลังจากนั้น แมวจะมีภูมิคุ้มกันและไม่ขับเชื้ออีกต่อไป
ดังนั้น ไม่ใช่แมวทุกตัวที่ “เป็นพาหะตลอดชีวิต” อย่างที่หลายคนเข้าใจผิดกันครับ

2. โรคนี้ติดต่อสู่คนยังไง? ไม่ใช่แค่จากแมวเท่านั้นนะครับ

แม้ว่าจะเป็นโรคที่ “เชื่อมโยงกับแมว”
แต่ความจริงแล้วมนุษย์สามารถติดเชื้อได้จากหลายช่องทาง เช่น:

• การกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก (โดยเฉพาะหมูหรือเนื้อวัว)

• การรับเชื้อจากผักที่ล้างไม่สะอาด

• การทำสวนหรือสัมผัสดินที่มีอุจจาระแมวปะปน

• การจับอุจจาระแมวที่มีเชื้อ แล้วไม่ล้างมือให้สะอาด

“ในบางประเทศ อัตราการติดเชื้อจากการกินเนื้อดิบสูงกว่าการสัมผัสแมวมากถึง 10 เท่า”
– ข้อมูลจาก WHO Global Foodborne Infections Network

3. คนท้องต้องระวังจริงไหม? คำตอบคือ “ใช่” แต่ไม่ได้แปลว่าห้ามเลี้ยงแมว

การติดเชื้อ Toxoplasma ครั้งแรกระหว่างตั้งครรภ์ อาจทำให้เชื้อผ่านรกไปยังทารกได้
แต่อัตราเสี่ยงจะลดลงอย่างมากหากคุณ…

• ตรวจเลือดหาภูมิก่อนหรือในช่วงต้นการตั้งครรภ์

• สวมถุงมือเวลาเปลี่ยนกระบะทราย

• ให้คนอื่นเปลี่ยนกระบะทรายแทน (แฮ่!)

• หลีกเลี่ยงการกินเนื้อดิบทุกชนิด

• ล้างมือทุกครั้งหลังจับแมว หรือก่อนรับประทานอาหาร

“หญิงตั้งครรภ์ที่มีภูมิคุ้มกันต่อ Toxoplasma แล้ว ไม่มีความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์”
– สมาคมสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย

4. แล้วแมวแบบไหนเสี่ยงจะติด Toxoplasma?

แมวที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และเป็นพาหะในช่วงขับเชื้อคือแมวที่...

• กินอาหารดิบ เช่น เนื้อดิบหรือของสดไม่ได้ปรุง

• ล่าเหยื่อ เช่น หนู จิ้งจก หรือสัตว์เล็ก

• มีพฤติกรรมออกนอกบ้าน และอยู่ในบริเวณที่มีแมวจรจำนวนมาก

ข้อควรรู้:
แมวที่กินอาหารเม็ด/อาหารเปียกแบบสำเร็จ และเลี้ยงในบ้าน 100%
มีโอกาสติดเชื้อน้อยมาก หรือแทบไม่มีเลย

5. เทคนิคป้องกัน Toxoplasmosis แบบง่ายๆ ที่ทำได้ตั้งแต่วันนี้

แม้จะฟังดูเป็นโรคที่น่ากังวล
แต่ความจริงคือ คุณสามารถลดความเสี่ยงได้แบบง่ายๆ ด้วย 5 เทคนิคนี้:

✅ เลี้ยงแมวแบบ Indoor-only (ในบ้านเท่านั้น)
✅ งดให้อาหารดิบ และปรุงอาหารให้แมวสุกทุกครั้ง
✅ เปลี่ยนทรายแมวทุกวัน และใส่ถุงมือเวลาทำความสะอาด
✅ ล้างมือบ่อย โดยเฉพาะก่อนกินอาหารหรือจับตา-จมูก-ปาก
✅ พาแมวตรวจสุขภาพประจำปี และสอบถามสัตวแพทย์หากมีข้อสงสัย

“ในประเทศไทย อัตราการพบเชื้อ Toxoplasma gondii ในแมวที่เลี้ยงระบบปิดอยู่ในระดับต่ำมาก ไม่ถึง 5%”
– ข้อมูลจากงานวิจัยคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ปี 2565

ท็อกโซพลาสโมซิสไม่ใช่เรื่องเล่น
แต่ก็ไม่ใช่โรคที่ต้องกลัวจนเลิกเลี้ยงแมว!

ความเข้าใจที่ถูกต้อง + พฤติกรรมป้องกันที่ดี = ความสุขระหว่างคนกับแมวที่อยู่ร่วมกันได้แบบไร้กังวล

ถ้าคุณรักแมวและใส่ใจเรื่องสุขภาพ... โรคนี้ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไปครับ

#ท็อกโซพลาสโมซิสไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด #เลี้ยงแมวอย่างปลอดภัย #รักแมวและดูแลสุขภาพด้วย #แมวกับคนอยู่ร่วมกันได้ #Lazadogห่วงใยสุขภาพแมวและเจ้าของ

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com