เปิด 5 สถิติน่ารู้ “Chlorpheniramine ยาแก้แพ้ยอดฮิตของคน ใช้กับหมาแมวได้แค่ไหน?” (อัปเดท 2025)

Apr 16, 2025
healthy สุขภาพ
เปิด 5 สถิติน่ารู้ “Chlorpheniramine ยาแก้แพ้ยอดฮิตของคน ใช้กับหมาแมวได้แค่ไหน?” (อัปเดท 2025)

เปิด 5 สถิติน่ารู้ “Chlorpheniramine ยาแก้แพ้ยอดฮิตของคน ใช้กับหมาแมวได้แค่ไหน?”

เวลาเห็นน้องหมาน้องแมวเกาจนขนร่วง น้ำตาไหล จามไม่หยุด
หลายคนเปิดตู้ยาทันที แล้วหยิบยาแก้แพ้ในบ้านขึ้นมา
โดยเฉพาะเจ้า Chlorpheniramine (คลอร์เฟนิรามีน) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “ยาแก้แพ้สีเหลือง”
แล้วก็เริ่มสงสัย...

“ใช้กับหมาแมวได้ไหม?”
“ให้เท่าไหร่ถึงจะปลอดภัย?”
“จะช่วยอาการแพ้ของสัตว์เลี้ยงได้จริงหรือเปล่า?”

วันนี้ผมจะพาคุณมา เปิด 5 สถิติน่ารู้เกี่ยวกับ Chlorpheniramine สำหรับหมาแมว
ว่าใช้ได้จริงไหม ใช้ยังไงให้ไม่พลาด และอะไรที่ห้ามทำเด็ดขาดครับ!


1. Chlorpheniramine “สามารถใช้กับหมาแมวได้” – แต่ต้องคุมปริมาณและใช้ภายใต้คำแนะนำของสัตวแพทย์เท่านั้น

จากแนวทางของ American Veterinary Medical Association (AVMA)
ยานี้อยู่ในกลุ่มยาแก้แพ้ชนิด Antihistamine ซึ่งสามารถใช้รักษาอาการแพ้ในสัตว์เลี้ยงได้
แต่มีข้อควรระวังเรื่องปริมาณ การตอบสนอง และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

ใช้รักษาอาการ:

  • คัน ผื่นแพ้

  • น้ำมูกไหล / จาม

  • อาการแพ้แมลงกัด

  • ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ (บางเคส)

ข้อควรรู้: ห้ามซื้อใช้เองในปริมาณเท่าคน เพราะขนาดยาแตกต่างมาก!


2. ปริมาณยาสำหรับหมาและแมว “อยู่ที่ประมาณ 0.2–0.5 มก./กก.” และต้องให้วันละ 2–3 ครั้งเท่านั้น

จากข้อมูลของ Veterinary Drug Handbook
Chlorpheniramine ต้องให้ตามน้ำหนักตัวของสัตว์ ไม่ใช่ตามขนาดยาในคน

ปริมาณที่แนะนำ:

  • สุนัข: 0.2–0.5 มก./กก. ทุก 8–12 ชม.

  • แมว: 1–2 มก. ต่อครั้ง วันละ 2 ครั้ง

ตัวอย่าง:
หมาน้ำหนัก 10 กก. อาจให้ 2–5 มก. ต่อครั้ง = 1 เม็ด 4 มก. ยังมากเกินไปในบางกรณี

เทคนิค: ใช้เม็ดยาแบบหักได้ หรือปรึกษาหมอเพื่อเปลี่ยนเป็นแบบน้ำหรือละลายน้ำให้แม่นยำ


3. 74% ของเจ้าของหมาแมว “ไม่รู้ว่ายาแก้แพ้บางสูตรมีส่วนผสมที่เป็นพิษต่อสัตว์”

จากการสำรวจของ Lazadog Pet Medication Report ปี 2024
เจ้าของส่วนใหญ่มักใช้ Chlorpheniramine ยี่ห้อในบ้านที่อาจมี ส่วนผสมอื่น เช่น ยาแก้ไอ, ยาลดน้ำมูก หรือสารเสริมฤทธิ์ที่เป็นพิษต่อสัตว์

ห้ามใช้สูตรที่มี:

  • Pseudoephedrine

  • Acetaminophen

  • Caffeine

  • Sorbitol (ในบางแมว)

ข้อควรรู้: ถ้าไม่แน่ใจในส่วนผสม อย่าเสี่ยง ให้ถามสัตวแพทย์ก่อนทุกครั้ง


4. Chlorpheniramine “อาจทำให้สัตว์ง่วง ซึม หรือเบื่ออาหาร” ใน 30–50% ของเคสที่ใช้ครั้งแรก

จากรายงานของ Tufts University Veterinary Pharmacology Center
พบว่า สัตว์เลี้ยงจำนวนมากจะมีอาการข้างเคียงเล็กน้อยหลังใช้ยาครั้งแรก โดยเฉพาะในแมวที่ไวต่อสารเคมีในยา

อาการที่อาจพบ:

  • ง่วงนาน

  • ไม่อยากอาหาร

  • หายใจช้า

  • เดินเซ หรือซึม

กลเม็ด: ใช้ยาช่วงเย็นเพื่อลดผลกระทบจากอาการง่วงในช่วงกลางวัน


5. การใช้ Chlorpheniramine ควบคู่กับยารักษาเฉพาะทาง “ช่วยลดอาการแพ้ได้เร็วขึ้นถึง 60%”

จากการศึกษาของ WALTHAM Petcare Science
การใช้ยาแก้แพ้ร่วมกับ แชมพูลดภูมิแพ้, อาหารเสริมโอเมก้า 3, หรือ การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ในบ้าน
สามารถช่วยให้อาการดีขึ้นชัดเจนภายใน 5–7 วัน ในสัตว์ที่ตอบสนองต่อยา

แนวทางเสริมการรักษา:

  • ล้างเท้าหลังพาน้องเดินสนาม

  • ใช้เครื่องฟอกอากาศในห้องนอน

  • ซักผ้าปูที่นอนสัตว์เลี้ยงสัปดาห์ละครั้ง

  • ปรับอาหารเป็นสูตร Hypoallergenic (ถ้าสงสัยว่าแพ้อาหารร่วมด้วย)

เทคนิค: การรักษาแบบองค์รวมจะช่วยลดการใช้ยาต่อเนื่อง และลดผลข้างเคียงในระยะยาว


Chlorpheniramine เป็นยาที่ “ใช่” สำหรับอาการแพ้บางกรณีในหมาแมว
แต่ต้องใช้แบบ “ไม่ประมาท” เพราะถ้าให้ปริมาณผิด หรือใช้สูตรที่มีส่วนผสมอันตราย
น้องอาจไม่ได้แค่หายคัน... แต่อาจป่วยเพิ่มโดยไม่ตั้งใจครับ!

อย่าลืมว่า "ยาแก้แพ้ของเรา" กับ "ยาแก้แพ้ของเขา" ต่างกันที่คำว่า "ขนาดที่เหมาะสม + คำแนะนำจากสัตวแพทย์" นะครับ!


#Chlorpheniramineกับสัตว์เลี้ยงใช้ยังไงให้ปลอดภัย #หมาคันไม่ต้องเสี่ยงยาเกินขนาด #ยาแก้แพ้แมวหมาใช้ได้แต่ต้องรู้จริง #Lazadogห่วงใยน้องหมาทุกการจามและเกา


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts