เปิด 5 สถิติน่ารู้ “หมาแพ้น้ำลายหมัด” ไม่ใช่แค่คันธรรมดา แต่อาจลุกลามถึงผิวอักเสบเรื้อรัง!
เคยไหมครับ?
อยู่ดีๆ น้องหมาก็เริ่มเกาขา เกาหู จนขนร่วงเป็นหย่อมๆ
พาไปหาหมอ หมอก็บอกว่า "น้องแพ้น้ำลายหมัดนะครับ"
แล้วคุณก็แบบ... “หมัดตัวเล็กนิดเดียว มันแพ้ได้ขนาดนี้เลยเหรอ!?”
คำตอบคือ: แพ้ได้ครับ และแพ้แรงด้วย!
วันนี้ผมจะพาคุณมา เปิด 5 สถิติน่ารู้เกี่ยวกับ “Flea Allergy Dermatitis” หรืออาการแพ้น้ำลายหมัดในสุนัข
ที่เจ้าของหมาทุกบ้านควรรู้ก่อนที่อาการคันจะลุกลามจนกลายเป็นปัญหาเรื้อรังครับ!
จากข้อมูลของ American Veterinary Dermatology Society
พบว่า ประมาณ 30–40% ของหมาที่มีอาการคันเรื้อรัง มีสาเหตุมาจาก “Flea Allergy Dermatitis”
หรืออาการแพ้น้ำลายหมัดที่น้องหมาได้รับจากการถูกหมัดกัดเพียงไม่กี่ตัว
คันรุนแรงบริเวณโคนหาง สะโพก หรือท้อง
ขนร่วงเป็นหย่อมๆ โดยเฉพาะด้านหลัง
เกาจนมีแผลถลอก หรือผิวแดงอักเสบ
มีตุ่มหรือสะเก็ดเล็กๆ ตามแนวสันหลัง
ข้อควรรู้: แม้จะหา “ตัวหมัด” ไม่เจอ แต่อาจยังมีน้ำลายหมัดตกค้าง ทำให้น้องแพ้ต่อได้เรื่อยๆ
จากการศึกษาของ Cornell University College of Veterinary Medicine
พบว่า สารโปรตีนในน้ำลายหมัดสามารถอยู่ในผิวหนังสุนัขและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันได้ถึง 14 วันหลังถูกกัด
แม้คุณจะกำจัดหมัดตัวต้นเหตุไปแล้วก็ตาม
สารโปรตีนในน้ำลายหมัดกระตุ้นการอักเสบ
ร่างกายหมาบางตัวไวต่อโปรตีนนี้มากเป็นพิเศษ
ระบบภูมิคุ้มกันจดจำสารนี้ไวและตอบสนองเร็วทุกครั้งที่เจอ
เทคนิค: ถ้าหมายังคันแม้หมัดหายแล้ว ให้ใช้สเปรย์ลดอาการอักเสบเฉพาะจุดควบคู่ไปด้วย
จากสถิติของ WALTHAM Petcare Science
หมาที่ไม่ได้รับการรักษาหรือควบคุมหมัดทันที มีแนวโน้มพัฒนาเป็นผิวหนังอักเสบเรื้อรังภายใน 2–4 สัปดาห์
ทำให้ต้องใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์หรือยากดภูมิร่วมด้วยในระยะยาว
ผิวหนา แข็ง สีเข้มขึ้น
เสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา
ขนไม่ขึ้นซ้ำบริเวณเดิม
พฤติกรรมเปลี่ยน เช่น ซึม เครียด ไม่อยากเล่น
ข้อควรรู้: อาการเรื้อรังอาจกลายเป็น “อาการทางจิต” ได้ ถ้าน้องเกาจนเป็นนิสัย
จากแนวทางของ American Animal Hospital Association (AAHA)
การใช้ ผลิตภัณฑ์ป้องกันหมัดทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอ เช่น ยาหยดหลัง ยากิน หรือปลอกคอกันหมัด
สามารถลดโอกาสเกิด Flea Allergy Dermatitis ได้ถึง 90–95%
ใช้ผลิตภัณฑ์กันหมัดทุก 30 วัน
ดูดฝุ่นพรมและที่นอนสัตว์เลี้ยงทุกสัปดาห์
ล้างของเล่นและเบาะนอนด้วยน้ำร้อน
รักษาสัตว์เลี้ยงทุกตัวในบ้านพร้อมกัน (ไม่ให้หมัดวนเวียน)
กลเม็ด: ใช้ผลิตภัณฑ์แบบ “ฆ่า + ไล่หมัด” จะได้ผลดีกว่าแบบที่แค่ไล่อย่างเดียว
จากการสำรวจโดย Lazadog Allergy Insight ปี 2024
พบว่าเจ้าของส่วนใหญ่มักมองว่าหมาคันเพราะ "แพ้อาหาร" หรือ "เห็บ" เท่านั้น
โดยมองข้าม “หมัดตัวเดียว” ว่าอาจเป็นต้นเหตุสำคัญของอาการแพ้เรื้อรัง
หาความสัมพันธ์ระหว่างอาการคันกับฤดู (ฤดูฝนหมัดมักเยอะ)
ใช้หวีหมัด + แปะกระดาษขาวดูจุดดำ (เศษเลือดแห้ง)
สังเกตว่าเกาบริเวณสันหลังหรือโคนหางเป็นหลักหรือไม่
เทคนิค: แม้ไม่เห็นหมัดก็อย่าชะล่าใจ ควรทำการป้องกันไว้ก่อนหากหมาเริ่มคันแบบมี Pattern
อย่าดูถูกหมัดตัวเล็กๆ เพราะมันไม่ใช่แค่ทำให้หมาคัน
แต่มันสามารถเปลี่ยนร่างน้องหมาให้กลายเป็น “นักเกาจนขนหาย” ได้ในเวลาไม่กี่สัปดาห์
แค่รู้ทันว่า “แพ้น้ำลายหมัด” คือเรื่องจริงที่รุนแรง และเริ่มต้นป้องกันตั้งแต่วันนี้
คุณก็จะได้เห็นหมาของคุณกลับมาขนนุ่ม วิ่งซน และไม่ต้องคันจนเบื่อชีวิตอีกต่อไปครับ!
#หมาแพ้น้ำลายหมัดไม่ใช่เรื่องเล็ก #คันเพราะหมัดไม่ใช่เพราะดิน #FleaAllergyหมาคันหนักมาก #Lazadogห่วงใยน้องหมาทุกขนทุกผิว #ป้องกันหมัดเท่ากับดูแลสุขภาพผิวหมา
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com