เปิด 5 สถิติน่ารู้ “หมาแพ้เกสรดอกไม้” คันเก่งทุกหน้าฝน จามหนักทุกต้นฤดู

ถ้าหมาของคุณจามบ่อย หูแดง เกาเท้าไม่หยุด แถมผื่นขึ้นช่วงเปลี่ยนฤดู
ลองสังเกตดีๆ เพราะสาเหตุอาจไม่ใช่เห็บหมัด หรืออาหารใหม่อย่างเดียว
แต่น้องหมาของคุณอาจกำลังเจอกับศัตรูเงียบอย่าง “เกสรดอกไม้” ก็ได้ครับ!

ใช่แล้วครับ! ไม่ได้มีแค่คนที่แพ้เกสร แต่ หมาเองก็เป็นภูมิแพ้เกสร (Pollen Allergy) ได้เหมือนกัน
วันนี้ผมจะพาคุณมา เปิด 5 สถิติน่ารู้เกี่ยวกับอาการแพ้เกสรในหมา
พร้อมวิธีดูให้ออก ดูแลให้อยู่ และจัดการได้แบบมืออาชีพโดยไม่ต้องพาหมาไปนั่งจามเป็นเพื่อนคุณทุกหน้าฝนครับ!

1. หมามากถึง 15–20% “มีแนวโน้มแพ้เกสร” โดยเฉพาะในเมืองที่มีฝุ่นและต้นไม้ปะปนกัน

จากข้อมูลของ WALTHAM Petcare Science
พบว่า สุนัขราว 15–20% มีปฏิกิริยาแพ้สารก่อภูมิแพ้ในเกสรดอกไม้ โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองที่มีฝุ่นละอองเกาะเกสร ทำให้เกิดอาการรุนแรงกว่าปกติ

ช่วงเสี่ยงสูงสุด:

• ช่วงฤดูฝนต้นฤดู (หญ้าเริ่มโต + ความชื้นสูง)

• ฤดูหนาวในพื้นที่มีต้นไม้เยอะ

ข้อควรรู้: หมาขนสั้นจะสัมผัสเกสรกับผิวหนังได้ง่ายกว่าหมาขนยาว และเสี่ยงคันไวกว่า

2. 68% ของหมาที่แพ้เกสร “แสดงอาการผ่านผิวหนังมากกว่าระบบหายใจ”

จากงานวิจัยของ Tufts University Cummings School of Veterinary Medicine
หมาที่แพ้เกสรจะไม่จามหรือมีน้ำมูกแบบคนเสมอไป
แต่อาจคันผิวหนังแบบรุนแรงโดยไม่มีผื่นเด่นชัด เช่น เกาเท้า เลียง่ามนิ้ว หรือเกาบริเวณหูและท้อง

อาการที่ควรระวัง:

• เลียเท้าทุกครั้งหลังกลับจากเดินเล่น

• คันแบบไม่มีเห็บ ไม่มีหมัด

• หูแดง มีขี้หูมากขึ้น

• ขนร่วงเฉพาะจุดโดยไม่มีแผล

กลเม็ด: สังเกตอาการว่า “คันเฉพาะช่วงฤดูเดิมๆ” หรือไม่ ถ้าใช่ ให้สงสัยเรื่องเกสรได้เลย

3. เจ้าของกว่า 72% “ไม่รู้ว่าหมาแพ้เกสรได้” ทำให้มองข้ามการดูแลหลังเดินเล่นกลางแจ้ง

จากการสำรวจของ Lazadog Allergy Insight ปี 2024
เจ้าของส่วนใหญ่มักคิดว่า “เกสรเป็นปัญหาของคน ไม่ใช่หมา”
แต่ในความเป็นจริง หมาที่เดินเล่นบนสนามหญ้า จะสัมผัสเกสรทั้งทางจมูก ผิวหนัง และอุ้งเท้าโดยตรง

วิธีป้องกันหลังพาน้องออกไปเดิน:

• เช็ดเท้า เช็ดตัวทันทีหลังกลับบ้าน

• ใช้ผ้าชุบน้ำเกลืออุ่นเช็ดบริเวณง่ามนิ้ว

• ถ้าเลี้ยงในห้องแอร์ ให้เปลี่ยนฟิลเตอร์กรองอากาศบ่อยขึ้น

เทคนิค: ใช้สเปรย์เคลือบผิวหนัง (สูตรสัตว์เลี้ยง) ก่อนพาออกนอกบ้านช่วยป้องกันสารก่อภูมิแพ้ได้ระดับหนึ่ง

4. หมาที่แพ้เกสรแล้วได้รับการดูแลเฉพาะทาง “อาการดีขึ้นถึง 80% ภายใน 10 วัน”

จากข้อมูลของ American Veterinary Medical Association (AVMA)
การดูแลหมาแพ้เกสรอย่างถูกวิธี เช่น การอาบน้ำลดสารก่อภูมิแพ้ การเสริม Omega-3 และการใช้ยาเฉพาะจุดจากสัตวแพทย์
สามารถทำให้อาการคันดีขึ้นใน 7–10 วันได้ถึง 80% ของเคส

แนวทางดูแลเบื้องต้น:

• อาบน้ำด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยน ลดการระคายเคือง

• ใช้น้ำมันปลาหรืออาหารเสริม Omega-3 ลดอักเสบ

• ไม่พาน้องเดินเล่นช่วงเช้า/เย็นที่เกสรฟุ้ง

• หากมีแผลควรให้สัตวแพทย์ประเมินและใช้ยาต้านการอักเสบ

ข้อควรรู้: อย่าใช้ยาแก้แพ้ของคนให้หมาโดยพลการ ต้องปรึกษาสัตวแพทย์เสมอ

5. หมาพันธุ์ขนสั้นและพันธุ์หน้าสั้น “เสี่ยงแพ้เกสรได้มากกว่าพันธุ์อื่น”

จากสถิติของ Lazadog Clinical Vet Report
พบว่า หมาพันธุ์ขนสั้น เช่น บีเกิ้ล, พั๊ก, เฟรนช์บูลด็อก และปั๊ก มีแนวโน้มเกิดอาการแพ้เกสรมากกว่าหมาขนยาว เนื่องจาก:

• ผิวสัมผัสเกสรโดยตรง

• ช่องจมูกแคบ ทำให้รับเกสรเข้าร่างกายได้มาก

• ระบบการกรองอากาศในทางเดินหายใจสั้นกว่า

กลเม็ด: ใส่เสื้อบางๆ หรือถุงเท้าเดินเล่นก็ช่วยลดการเกาะของเกสรได้ดีในบางสายพันธุ์

เกสรดอกไม้… ไม่ใช่แค่ตัวร้ายสำหรับคนแพ้ง่าย แต่ยังเป็นภัยเงียบสำหรับน้องหมาด้วย
แต่ถ้าเรารู้ทัน ดูแลให้ถูก และสังเกตพฤติกรรมได้ดีพอ หมาของคุณก็จะผ่านหน้าฝนและฤดูดอกไม้บานได้แบบไม่ต้องคันจนเดินสามขาเลยครับ!

#หมาแพ้เกสรมีจริงนะรู้ยัง #คันทุกฤดูอย่ามองข้ามเกสร #ดูแลหมาแพ้แบบมือโปร #ฤดูดอกไม้แต่หมาไม่สดใส #Lazadogห่วงใยน้องหมาทุกฤดู

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com