เปิด 5 สถิติน่ารู้ “หมาเป็นโลหิตจางชนิดไขกระดูกฝ่อ” เงียบแต่ร้าย อ่อนเพลียแบบไม่ธรรมดา!
เวลาเราพูดถึง “หมาเป็นโลหิตจาง” หลายคนอาจคิดว่าแค่น้องหมาซึมๆ หรือเหงือกซีด
แต่รู้ไหมครับว่า... มีโลหิตจางชนิดหนึ่งที่น่ากลัวกว่าปกติ เพราะ ต้นเหตุไม่ได้อยู่ที่เลือด แต่อยู่ที่ “ไขกระดูก” ที่ไม่ยอมทำงาน!
ภาวะนี้มีชื่อว่า Aplastic Anemia (อะพลาสติก อะนีเมีย) หรือ “ภาวะไขกระดูกฝ่อในหมา”
โรคนี้เจอน้อยแต่ดุ เงียบแต่แรง และถ้าไม่รู้ทัน อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตในไม่กี่สัปดาห์
วันนี้ผมจะพาทุกคนมาเปิด 5 สถิติน่ารู้เกี่ยวกับโรคนี้ พร้อมเทคนิคช่วยน้องได้เร็วก่อนจะสายครับ!
จากงานวิจัยใน Veterinary Clinical Pathology Journal ปี 2022
พบว่า หมาที่มีภาวะนี้หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาทันท่วงที มีอัตราการรอดชีวิตเพียง 30% เท่านั้น
ไขกระดูกไม่สร้างเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด
ทำให้น้องหมา ซีดง่าย ติดเชื้อง่าย และเลือดออกง่าย
โรคนี้ไม่มีอาการเฉพาะ ทำให้เจ้าของมักพาไปหาหมอช้า
ข้อควรรู้: โรคนี้ต่างจากโลหิตจางทั่วไปตรงที่ ต้นเหตุคือ “โรงงานผลิตเลือดหยุดทำงาน” ไม่ใช่เลือดรั่วหรือเลือดหาย
ข้อมูลจาก American College of Veterinary Internal Medicine ระบุว่า
กลุ่มหมาอายุ 5 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะสายพันธุ์อย่าง ลาบราดอร์, เยอรมันเชพเพิร์ด, บีเกิ้ล
มีแนวโน้มเกิดโรคนี้สูงขึ้นจากการสะสมสารพิษหรือผลข้างเคียงจากยา
การใช้ยาบางชนิดต่อเนื่อง เช่น ยาฆ่ามะเร็ง, ยาปฏิชีวนะบางกลุ่ม
การได้รับสารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลงหรือสารกันแมลง
การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น Ehrlichia หรือ Parvovirus
เทคนิค: หากน้องหมากินยาประจำหรือเคยสัมผัสสารเคมี ต้องตรวจเลือดอย่างน้อยปีละครั้งนะครับ
หลายคนคิดว่า... “หมาแก่ก็งี้แหละ” หรือ “ช่วงนี้มันขี้เกียจ”
แต่ถ้าเห็นว่าน้อง เหนื่อยง่าย หอบบ่อย ซีด เหงือกซีด ไม่ยอมกิน ไม่เล่นแบบเดิม
อย่ารอครับ พาไปเจาะเลือดดูค่าฮีมาโตคริต (HCT) ด่วนๆ!
เหงือกซีด ปากขาว
เดินแป๊บเดียวก็เหนื่อย
นอนมากผิดปกติ
มีจ้ำเลือดที่ผิวหนัง
มีเลือดออกที่จมูก/ปาก โดยไม่รู้สาเหตุ
ข้อควรรู้: การเจาะเลือดและตรวจไขกระดูกจะช่วยยืนยันการวินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ
แนวทางการรักษา Aplastic Anemia จะใช้หลายวิธีผสมกัน โดยขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง
รวมถึงสาเหตุเบื้องหลัง (เช่น ติดเชื้อ, ยา, สารพิษ)
ถ่ายเลือดเพื่อเพิ่มเม็ดเลือดแดง
ใช้ยากดภูมิเพื่อลดการทำลายไขกระดูก
รักษาภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ
เลี่ยงการใช้ยา/สารเคมีที่กระตุ้นโรค
เคล็ดลับ: ต้องใช้เวลาและความอดทนสูง เจ้าของควรสื่อสารใกล้ชิดกับสัตวแพทย์และหมั่นตรวจเลือดตามกำหนด
Aplastic Anemia ยังไม่มีวิธีป้องกันแบบ 100%
แต่เราลดโอกาสเกิดได้โดยหลีกเลี่ยงสารกระตุ้นที่ทำลายไขกระดูก เช่น สารเคมีแรงๆ หรือยาที่ไม่จำเป็น
เลี่ยงการใช้ยาฆ่าหมัดที่มีสาร organophosphate หรือ carbamate
อย่าซื้อยากินเองโดยไม่ปรึกษาหมอ
ตรวจเลือดเช็คค่าความสมบูรณ์ของเลือดอย่างสม่ำเสมอ
สังเกตอาการอ่อนเพลียแบบผิดปกติ
เทคนิค: ถ้ามีประวัติน้องหมาเคยซีดบ่อยๆ ควรเก็บบันทึกผลเลือดเก่าไว้เทียบกันทุกปีครับ
โลหิตจางชนิดไขกระดูกฝ่อในสุนัข ไม่ใช่แค่ภาวะซีดธรรมดา แต่เป็นโรคร้ายที่ทำให้ “โรงงานผลิตเลือดหยุดทำงาน”
ถ้ารู้เร็ว รักษาเร็ว โอกาสรอดมีมากกว่าที่คิด
แต่ถ้าช้าเกินไป น้องหมาอาจเข้าสู่ภาวะติดเชื้อหรือเลือดออกภายในได้อย่างรวดเร็ว
ดังนั้นการตรวจสุขภาพประจำปี จึงเป็นด่านแรกในการช่วยชีวิตเพื่อนรักสี่ขาของเราได้ครับ
#หมาโลหิตจางต้องรู้ #AplasticAnemiaในหมาไม่ธรรมดา #สุนัขอ่อนเพลียอย่ามองข้าม #Lazadogห่วงใยน้องหมาทุกโรค #ตรวจเลือดหมาปีละครั้งช่วยชีวิตได้
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com