เปิด 5 สถิติน่ารู้ “หมาเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง” เมื่อฮีโร่ในร่างกายกลายเป็นตัวร้ายที่เราต้องช่วยจัดการ (อัปเดท 2025)

Apr 18, 2025
การรับเลี้ยงและการดูแล
เปิด 5 สถิติน่ารู้ “หมาเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง” เมื่อฮีโร่ในร่างกายกลายเป็นตัวร้ายที่เราต้องช่วยจัดการ (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

เปิด 5 สถิติน่ารู้ “หมาเป็นโรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง” เมื่อฮีโร่ในร่างกายกลายเป็นตัวร้ายที่เราต้องช่วยจัดการ

รู้ไหมครับว่า “ระบบภูมิคุ้มกัน” ที่ควรจะเป็นด่านป้องกันร่างกายของน้องหมา
บางครั้งก็เกิดอาการ “งงในชีวิต” แล้วหันไปทำร้ายอวัยวะตัวเองซะงั้น
นั่นแหละครับคือที่มาของ “โรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเองในหมา (Autoimmune Disease in Dogs)” โรคที่วินิจฉัยยาก อาการหลากหลาย และต้องการการดูแลระยะยาว

วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จักกับโรคนี้แบบครบเครื่อง ผ่าน 5 สถิติน่ารู้ที่ทั้งน่าตกใจและมีประโยชน์สำหรับคนรักหมาทุกคนครับ


1. โรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง “พบในหมาประมาณ 1–2%” โดยเฉพาะในบางพันธุ์มีความเสี่ยงสูงกว่าปกติถึง 5 เท่า

ข้อมูลจาก American College of Veterinary Internal Medicine (ACVIM) ระบุว่า
โรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเองในหมาไม่ใช่โรคหายาก โดยเฉลี่ยพบได้ใน 1–2% ของสุนัขทั้งหมด
และในบางสายพันธุ์ เช่น ค็อกเกอร์ สแปเนียล (Cocker Spaniel), เยอรมัน เชพเพิร์ด (German Shepherd), และอาคิตะ (Akita)
มีโอกาสเกิดโรคนี้สูงกว่าหมาทั่วไปถึง 4–5 เท่า

ทำไมพันธุ์บางตัวถึงเสี่ยง?

  • พันธุกรรมมีผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

  • ฮอร์โมนเพศในบางช่วงอาจกระตุ้นให้โรคกำเริบ

  • ปัจจัยกระตุ้น เช่น วัคซีน ยา หรือสภาพแวดล้อม

ข้อควรรู้: ไม่ใช่แค่หมาแก่หรือหมาป่วยเรื้อรัง หมาอายุ 1–3 ปีก็สามารถเป็นโรคนี้ได้เช่นกันครับ


2. โรคภูมิคุ้มกันในหมา “มีมากกว่า 10 ชนิด” และแต่ละชนิดส่งผลกับอวัยวะต่างกัน

โรคนี้ไม่ได้มีแค่แบบเดียว แต่แบ่งได้หลายกลุ่ม ตามว่า ระบบภูมิคุ้มกันพุ่งเป้าไปที่ไหนในร่างกาย
และนั่นทำให้อาการแตกต่างกันสุดๆ บางตัวซีดเฉียบพลัน บางตัวขนร่วงหมดตัว บางตัวขาไม่มีแรงเดิน

ตัวอย่างกลุ่มโรคภูมิคุ้มกันในหมาที่พบบ่อย:

  • IMHA (Immune-Mediated Hemolytic Anemia) – ภูมิคุ้มกันทำลายเม็ดเลือดแดง → ซีด เหงือกขาว

  • ITP (Immune-Mediated Thrombocytopenia) – ทำลายเกล็ดเลือด → ช้ำง่าย เลือดออกตามตัว

  • Pemphigus – ทำลายผิวหนัง → เป็นแผล ขนร่วง ลอกเป็นขุย

  • Polyarthritis – ข้ออักเสบหลายข้อพร้อมกัน → ขาอ่อนแรง เดินไม่ไหว

  • Myasthenia Gravis – ทำลายกล้ามเนื้อ → กลืนลำบาก เดินแล้วล้ม

เทคนิค: อาการหลากหลายมาก ดังนั้นหากน้องมีอาการแปลกๆ ที่ไม่ตอบสนองต่อยาปกติ ให้สงสัยไว้ก่อนครับว่าอาจเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน


3. หมาที่ได้รับการรักษาทันเวลา “มีโอกาสฟื้นตัวได้ถึง 75%” ถ้าได้รับการดูแลต่อเนื่องอย่างถูกต้อง

ข้อมูลจาก Journal of Veterinary Internal Medicine ระบุว่า
หมาที่วินิจฉัยโรคได้เร็ว และได้รับการรักษาด้วยยากดภูมิอย่างต่อเนื่อง มีอัตรารอดชีวิตและคุณภาพชีวิตดีในระยะยาวสูงถึง 75%
โดยเฉพาะในกรณีของ IMHA และ ITP ซึ่งตอบสนองดีมากถ้าให้ยาทันและสม่ำเสมอ

แนวทางการรักษาทั่วไป:

  • ยากดภูมิ เช่น Prednisone, Azathioprine

  • ตรวจเลือดติดตามการทำงานของอวัยวะทุก 1–3 เดือน

  • พักผ่อนมากกว่าปกติ และลดความเครียด

  • หลีกเลี่ยงวัคซีน/ยาที่อาจกระตุ้นโรค

ข้อควรรู้: โรคนี้รักษาไม่หายขาด แต่ควบคุมได้ คล้ายคนเป็นภูมิแพ้ เพียงแค่เราต้องเข้าใจและไม่ทิ้งเขาในวันที่อ่อนแอครับ


4. การวินิจฉัยโรคภูมิคุ้มกันในหมา “ใช้เวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์” เพราะต้องตัดสาเหตุอื่นๆ ออกก่อน

หนึ่งในปัญหาใหญ่ของโรคนี้คือ ไม่มีการตรวจแบบ “จิ้มแล้วรู้” ได้ทันที
ต้องใช้การตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เอกซเรย์ หรือแม้กระทั่งเจาะชิ้นเนื้อเพื่อยืนยันว่า “ภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติจริง”

ขั้นตอนการวินิจฉัยโดยทั่วไป:

  • ตรวจความสมบูรณ์ของเลือด (CBC)

  • ตรวจ ANA, Coombs test, หรือการตรวจภูมิคุ้มกันเฉพาะทาง

  • เจาะน้ำไขข้อในบางกรณี

  • ตรวจการทำงานของตับ ไต และระบบเลือด

เทคนิค: สัตวแพทย์บางแห่งอาจส่งผลไปแล็บต่างประเทศ ดังนั้นควรเตรียมใจเรื่องเวลารอผลให้ดีครับ


5. หมา 60% ที่มีภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง “สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้” ถ้าเจ้าของเข้าใจและร่วมมือกับสัตวแพทย์

แม้โรคจะดูหนัก แต่ข่าวดีคือ หมาที่ได้รับการรักษาต่อเนื่อง + การดูแลจากเจ้าของอย่างจริงจัง สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้มากกว่า 60%
บางตัวกลับไปวิ่งเล่นได้สบาย แค่ต้องกินยากดภูมิบางตัวต่อเนื่อง และมีการตรวจสุขภาพเป็นระยะ

เคล็ดลับการดูแลระยะยาว:

  • อย่าหยุดยาเองเด็ดขาด

  • สังเกตพฤติกรรมทุกวัน เช่น ซึม เบื่ออาหาร หรือมีจ้ำเลือด

  • หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น สภาพแวดล้อมแออัด ยากระตุ้นภูมิ

  • ให้น้องนอนพักเยอะๆ อย่าพาออกแรงหนัก

ข้อควรรู้: หมาไม่ต้องสมบูรณ์แบบเพื่อจะมีความสุข แค่มีเจ้าของที่เข้าใจ ก็เพียงพอแล้วครับ


โรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเองในหมาอาจฟังดูน่ากลัว แต่ความจริงคือ มันคือโรคที่เราควบคุมได้
ตราบใดที่เราใส่ใจ สังเกต และร่วมมือกับสัตวแพทย์อย่างต่อเนื่อง
เพราะน้องหมาไม่สามารถพูดได้ว่า “หนูกำลังโดนภูมิคุ้มกันตัวเองทำร้ายอยู่นะ”
ดังนั้นหน้าที่ของเราคือการเป็นเสียงแทนเขา ดูแลเขา และอยู่ข้างเขาในทุกช่วงของชีวิตครับ


#โรคภูมิคุ้มกันหมาไม่ใช่เรื่องไกลตัว #รักหมาต้องรู้จักโรคซ่อนเร้น #ดูแลหมาที่อ่อนแอเหมือนคนในครอบครัว #หมาเป็นภูมิแพ้ตัวเองต้องช่วยทัน #Lazadogห่วงใยน้องหมาทุกโรคซับซ้อน


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts