เปิด 5 สถิติน่ารู้ “หมาท้องเสียจากแคมไพโลแบคทีเรีย” เมื่อเชื้อโรคในลำไส้ไม่ใช่เรื่องเล่น (อัปเดท 2025)

Apr 18, 2025
การรับเลี้ยงและการดูแล
เปิด 5 สถิติน่ารู้ “หมาท้องเสียจากแคมไพโลแบคทีเรีย” เมื่อเชื้อโรคในลำไส้ไม่ใช่เรื่องเล่น (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

เปิด 5 สถิติน่ารู้ “หมาท้องเสียจากแคมไพโลแบคทีเรีย” เมื่อเชื้อโรคในลำไส้ไม่ใช่เรื่องเล่น

หลายคนอาจคุ้นกับคำว่า “ท้องเสียจากอาหารเป็นพิษ” แต่รู้ไหมครับว่าในหมาเองก็มีเชื้อโรคสายเดียวกันที่เป็นตัวการทำให้อึเหลว อึกลิ่นแรง และในบางครั้ง… ยังสามารถแพ้กลับมาหาเราได้ด้วย

เชื้อนี้มีชื่อว่า แคมไพโลแบคเตอร์ (Campylobacter spp.) ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุอันดับต้นๆ ของโรคระบบทางเดินอาหารในน้องหมา โดยเฉพาะหมาวัยเด็ก และหมาที่อยู่รวมกันเยอะๆ อย่างในฟาร์มหรือศูนย์พักพิง

วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จักเจ้าเชื้อร้ายจอมซุ่มซ่ามนี้ ผ่าน 5 สถิติน่ารู้ ที่ทั้งน่ากลัวและน่าป้องกันครับ


1. มากถึง “49% ของลูกหมาอายุน้อยกว่า 6 เดือน” มีเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ในลำไส้ โดยที่ไม่แสดงอาการ

จากงานวิจัยของ Journal of Clinical Microbiology พบว่า
ลูกหมาอายุน้อยกว่า 6 เดือนที่อาศัยในแหล่งที่มีหมาเยอะ เช่น ฟาร์มหรือแหล่งเพาะพันธุ์
พบเชื้อ Campylobacter อยู่ในลำไส้มากถึง 49% แม้ว่าจะไม่มีอาการท้องเสียเลยก็ตาม

ทำไมต้องระวังแม้ไม่แสดงอาการ:

  • เชื้ออาจถูกขับออกมากับอุจจาระ

  • เจ้าของอาจสัมผัสโดยไม่รู้ตัว

  • เชื้อสามารถแพ้สู่คน โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ หรือคนภูมิต้านทานต่ำ

ข้อควรรู้: ไม่ใช่ทุกหมาที่มีเชื้อจะป่วย แต่ทุกตัว “สามารถแพร่เชื้อ” ได้ครับ


2. Campylobacteriosis เป็นหนึ่งใน “สาเหตุหลักของโรคท้องเสียในคนจากสัตว์เลี้ยง” โดยเฉพาะจากลูกหมา

ข้อมูลจาก Centers for Disease Control and Prevention (CDC) ระบุว่า
เชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ เป็นหนึ่งในแบคทีเรีย zoonotic ที่สามารถติดต่อจากหมาสู่คนผ่านการสัมผัสอุจจาระ หรือการเลียใบหน้าได้

สถิติที่น่าตกใจ:

  • ปี 2019 มีเคสคนติดเชื้อจากลูกหมาเพาะพันธุ์ในอเมริกามากกว่า 100 ราย

  • อาการในคนคือ ท้องเสีย ไข้ ปวดท้อง คลื่นไส้

  • กลุ่มเสี่ยง: เด็กเล็ก ผู้สูงวัย และคนภูมิคุ้มกันต่ำ

เทคนิค: หมั่นล้างมือหลังเก็บอึหมา หลีกเลี่ยงให้ลูกหมาเลียปากหรือจมูก และควรแยกอุปกรณ์กินอยู่ของหมาชัดเจน


3. เชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ “อยู่รอดได้นานถึง 3 วันในสิ่งแวดล้อมชื้น” เช่น พื้นบ้าน พื้นกรง และสนามหญ้า

เชื้อนี้ไม่ใช่แค่จะอยู่ในตัวน้องหมานะครับ
แต่ยังสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้หากพื้นที่นั้นชื้น เช่น ถาดรองกรง สนามดิน หรือแม้แต่พื้นห้องน้ำ
โดย Campylobacter jejuni สามารถอยู่รอดได้นานถึง 3 วันในอุณหภูมิห้องที่มีความชื้นสูง

สถานที่เสี่ยง:

  • พื้นกรงที่ไม่ได้ล้างบ่อย

  • สนามหญ้าเปียกที่มีอึเก่า

  • ผ้าปูที่นอนหมาแบบไม่ได้ซัก

ข้อควรรู้: การทำความสะอาดพื้นกรงด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออาทิตย์ละครั้ง สามารถลดความเสี่ยงลงได้กว่า 70% ครับ


4. ลูกหมาที่ติดเชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ “มีอาการท้องเสียแบบเฉียบพลันใน 80%” และบางรายอาจถ่ายเป็นเลือด

จากรายงานของ Veterinary Clinics of North America
ลูกหมาที่ติดเชื้อมักเริ่มแสดงอาการภายใน 2–5 วันหลังรับเชื้อ โดย 80% มีอาการถ่ายเหลวเฉียบพลัน และในบางรายที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ จะถ่ายเป็นเลือดร่วมด้วย

อาการที่ต้องเฝ้าระวัง:

  • ถ่ายเหลวติดต่อกันเกิน 2 วัน

  • ถ่ายมีเลือด หรือมูกปน

  • ซึม เบื่ออาหาร ตัวร้อน

  • อาจมีไข้ หรืออาเจียนร่วมด้วย

เทคนิค: อย่าใช้ยาหยุดถ่ายของคนให้หมา ควรรีบพาไปหาหมอเพื่อตรวจอุจจาระและรับยาปฏิชีวนะที่เหมาะสม


5. ลูกหมาที่ได้รับการรักษาทัน “มีอัตราหายดีเกิน 90% ภายใน 5–7 วัน” โดยไม่ทิ้งผลข้างเคียงระยะยาว

ข่าวดีคือ Campylobacteriosis เป็นโรคที่รักษาได้ง่าย ถ้าตรวจเจอไวและให้ยาตรงตัว
ส่วนใหญ่จะใช้ยาปฏิชีวนะกลุ่ม macrolide (เช่น erythromycin หรือ azithromycin) และควบคุมอาหารสักระยะ

แนวทางการดูแล:

  • ให้น้ำเกลือในรายที่ถ่ายบ่อย

  • งดของดิบ ของมัน ของหวานชั่วคราว

  • พักร่างกาย และทำความสะอาดพื้นกรง/ของใช้

  • ตรวจอุจจาระซ้ำหลังหาย เพื่อยืนยันการหายขาด

เคล็ดลับ: หมาอายุเกิน 1 ปีมักไม่ติดง่าย แต่ลูกหมานั้นอ่อนไหวมาก ต้องใส่ใจเรื่องอาหาร ความสะอาด และการเล่นนอกบ้านให้มากขึ้นครับ


Campylobacteriosis อาจไม่ใช่โรคที่เจ้าของหมาคุ้นชื่อ แต่ถ้าหมาเริ่มถ่ายเหลว ซึม และอึมีกลิ่นแรงกว่าปกติ ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ
ยิ่งถ้าเป็นลูกหมา หรือหมาที่อยู่รวมกันหลายตัว การแพร่เชื้อจะง่าย และการดูแลต้องรัดกุม
ข่าวดีคือ รักษาได้หาย แค่ต้องรู้ไว และห้ามประมาท

เพราะหมาไม่ใช่แค่เพื่อนที่ซื่อสัตย์… แต่ยังเป็นพาหะที่ซื่อสัตย์มากเช่นกันครับ


#หมาท้องเสียอาจติดเชื้อ #หมาแพร่โรคได้ไม่รู้ตัว #แคมไพโลแบคเตอร์ในหมาต้องรู้ไว้ #รักหมาต้องล้างมือบ่อย #Lazadogใส่ใจหมาและเจ้าของ


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts