เปิด 5 สถิติน่ารู้ “น้องหมามีตาโตข้าง เล็กข้าง” หรือโรค Anisocoria ภาวะที่ไม่ควรมองข้าม (อัปเดท 2025)

Apr 17, 2025
healthy สุขภาพ
เปิด 5 สถิติน่ารู้ “น้องหมามีตาโตข้าง เล็กข้าง” หรือโรค Anisocoria ภาวะที่ไม่ควรมองข้าม (อัปเดท 2025)

เปิด 5 สถิติน่ารู้ “น้องหมามีตาโตข้าง เล็กข้าง” หรือโรค Anisocoria ภาวะที่ไม่ควรมองข้าม

ลองมองตาน้องหมาของคุณดีๆ ครับ...
ถ้าคุณเริ่มเห็นว่า ตาข้างหนึ่งโตบาน อีกข้างกลับเล็กลงอย่างน่าแปลกใจ
อย่าเพิ่งคิดว่าน้องกำลัง “ขี้เล่น” หรือ “ทำตาหวาน”
เพราะสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่แค่นิสัย แต่มันคืออาการของภาวะ Anisocoria (แอนิโซคอเรีย) หรือ “ตาสองข้างไม่เท่ากัน” ที่เกิดขึ้นได้กับสุนัข

และวันนี้ผมขอพาคุณมาทำความรู้จักโรคนี้ ผ่าน 5 สถิติน่ารู้ ที่จะทำให้คุณหันกลับไปมองตาน้องอีกครั้งด้วยความห่วงใยครับ


1. Anisocoria ไม่ใช่แค่เรื่อง “สวยไม่เท่ากัน” แต่เป็นสัญญาณจากระบบประสาทและดวงตา

จากข้อมูลของ American College of Veterinary Ophthalmologists
ภาวะ Anisocoria มักเป็น อาการของโรค ไม่ใช่โรค
และมักเกี่ยวข้องกับระบบประสาท ดวงตา หรือแม้แต่สมองของน้องหมา

สาเหตุที่พบบ่อย:

  • โรคทางตา เช่น ต้อหิน, แผลกระจกตา

  • การบาดเจ็บของเส้นประสาท

  • โรคทางสมอง เช่น เนื้องอก

  • การได้รับสารเคมีหรือยาบางชนิด

ข้อควรรู้: อย่าคิดว่าแค่ตาไม่เท่ากันแล้วน่ารักดี เพราะเบื้องหลังอาจเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่คุณคิด


2. 1 ใน 5 ของหมาที่มีตาไม่เท่ากัน “เกี่ยวข้องกับภาวะฉุกเฉินทางตา เช่น ต้อหินเฉียบพลัน”

ต้อหิน (Glaucoma) เป็นโรคที่มีความดันในลูกตาสูง ทำให้ตาโปนโตผิดปกติ
ในบางกรณี ภายใน 24 ชั่วโมง หากไม่รีบรักษาอาจทำให้ตาบอดได้ถาวร

อาการร่วมที่ควรระวัง:

  • น้องหมาขยี้ตา

  • น้ำตาไหล

  • เบื่อแสง

  • เดินชนของ

  • มีตาโตข้างเดียวอย่างชัดเจน

เทคนิค: ถ้าคุณเห็นว่าน้องหมามีตาโตแบบ “ตุ่ยขึ้นกว่าปกติ” รีบพบสัตวแพทย์เฉพาะทางด้านตาโดยด่วน


3. หมาที่เป็น Anisocoria จากระบบประสาท “อาจเริ่มจากแค่ตาเบี้ยว ก่อนลามไปถึงสมดุลร่างกาย”

ข้อมูลจาก Veterinary Neurology Research Group พบว่า
โรคสมองหรือไขสันหลังบางชนิด เช่น เนื้องอก หรือการอักเสบของเส้นประสาท
สามารถแสดงออกผ่านอาการ Anisocoria ก่อนที่เจ้าของจะเห็นสัญญาณอื่นๆ

อาการร่วม:

  • เดินวน หัวเอียง

  • ขาอ่อนแรงข้างเดียว

  • ตอบสนองช้าหรือมึนงง

  • ปากเบี้ยว ตาเบี้ยว (Facial nerve palsy)

ข้อควรรู้: อย่ารอให้มีอาการชัด ถ้าเริ่มเห็นว่าตาไม่เท่ากัน พร้อมมีพฤติกรรมแปลก รีบพาไปตรวจ CT/MRI ได้เลยครับ


4. ยาหยอดตาบางชนิด “อาจทำให้เกิด Anisocoria แบบชั่วคราวได้” — แต่ก็ไม่ควรละเลย

น้องหมาบางตัวที่หยอดยาตา เช่น Atropine หรือยาขยายม่านตา
อาจมีอาการตาข้างที่หยอด โตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในไม่กี่ชั่วโมง
แต่โดยปกติจะหายภายใน 24–48 ชั่วโมง

แต่อย่างไรต้องระวัง:

  • หากเกิน 48 ชั่วโมงและยังไม่เท่ากัน → ควรไปพบหมอ

  • ถ้าน้องดูมึนหรือมีอาการอื่นร่วม → อาจมีปัญหาลึกกว่านั้น

กลเม็ด: บอกสัตวแพทย์เสมอว่าเคยใช้ยาหยอดตาอะไรกับน้องก่อนหน้าหรือไม่ เพื่อให้วินิจฉัยแม่นยำขึ้น


5. Anisocoria รักษาได้ “ถ้ารู้ต้นเหตุเร็ว” โดย 85% ของหมาที่รักษาทันเวลา กลับมาตาปกติได้

ข่าวดีคือ ภาวะตาไม่เท่ากันในหมา มีโอกาสฟื้นฟูได้สูงมาก หากวินิจฉัยต้นเหตุถูกต้อง
ไม่ว่าจะเป็นจากแผล กระจกตา ต้อหิน หรือระบบประสาทก็ตาม

แนวทางรักษา:

  • หยอดยาลดความดันตา (กรณีต้อหิน)

  • รักษาแผลในตา/ผ่าตัด (ถ้าจำเป็น)

  • วินิจฉัยระบบประสาท → ให้ยากดอักเสบหรือผ่าตัด

  • ติดตามอาการด้วยการวัดขนาดม่านตาและการตอบสนองต่อแสง

เคล็ดลับ: ถ่ายรูปน้องเก็บไว้ก่อน–หลังจะช่วยให้คุณเห็นการเปลี่ยนแปลงของตาได้แม่นยำขึ้นมากครับ


Anisocoria หรือภาวะตาไม่เท่ากันในหมา อาจดูเหมือนเรื่องเล็กๆ ที่หลายคนมองข้าม
แต่ในความเป็นจริง มันอาจเป็นสัญญาณแรกของโรคตาหรือโรคระบบประสาทที่อันตราย
การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่าง “ขนาดม่านตา” อาจเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตน้องไว้ได้ในระยะยาวครับ!


#ตาหมาไม่เท่ากันอย่านิ่งนอนใจ #Anisocoriaในสุนัขรู้ไว้ไม่ตกใจ #โรคตาน้องหมาน่ารู้ #Lazadogห่วงใยน้องหมาทุกดวงตา #หมาตาโตข้างเดียวอย่าคิดว่าน่ารักอย่างเดียว


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts