เปิด 5 สถิติน่ารู้ “โปรไบโอติกสำหรับหมา” เสริมจุลินทรีย์ดี ชีวิตหมาก็สดใสขึ้นเยอะ!
เมื่อก่อนเวลาเห็นคำว่า “โปรไบโอติก” เราอาจนึกถึงโยเกิร์ตหรืออาหารสุขภาพของคน
แต่รู้ไหมครับว่า... น้องหมาของเราก็ต้องการ “จุลินทรีย์ดี” ในลำไส้เช่นกัน!
โปรไบโอติกสำหรับสุนัขไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือการเสริมสุขภาพระบบย่อย ช่วยให้ขับถ่ายดี ลดปัญหาท้องเสียเรื้อรัง และยังมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย
วันนี้ผมจะพาคุณมาเจาะลึก 5 สถิติน่ารู้เกี่ยวกับโปรไบโอติกสำหรับหมา ว่าทำไมถึงน่าลอง เสริมยังไงให้ถูกจังหวะ และต้องเลือกแบบไหนถึงจะเห็นผลครับ
ข้อมูลจาก WALTHAM Petcare Science ระบุว่า
กว่า 70% ของเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกายสัตว์เลี้ยงอยู่ในระบบทางเดินอาหาร
แปลว่า... ถ้าลำไส้แข็งแรง ระบบภูมิคุ้มกันก็จะแข็งแรงไปด้วย
หมาที่ขับถ่ายไม่ปกติบ่อยๆ มีแนวโน้มเสี่ยงโรคเรื้อรัง
ระบบลำไส้ที่สมดุลช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และโรคภูมิแพ้
โปรไบโอติกช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียดีในลำไส้ และลดแบคทีเรียร้าย
กลเม็ด: ให้โปรไบโอติกสม่ำเสมอในช่วงเปลี่ยนอาหาร เดินทาง หรือหลังใช้ยาปฏิชีวนะ จะช่วยฟื้นฟูจุลินทรีย์ได้เร็วขึ้น
จากการศึกษาของ Cornell University ปี 2022
พบว่า สุนัขที่ได้รับโปรไบโอติกสายพันธุ์เฉพาะ เช่น Enterococcus faecium หรือ Lactobacillus acidophilus มีอัตราการหายจากอาการท้องเสียภายใน 3 วัน มากถึง 87%
Enterococcus faecium – ช่วยย่อยอาหาร ลดท้องเสีย
Lactobacillus rhamnosus – เสริมภูมิคุ้มกัน
Bifidobacterium animalis – ปรับสมดุลลำไส้
Saccharomyces boulardii – จุลินทรีย์ยีสต์ ช่วยเมื่อท้องเสียจากยาปฏิชีวนะ
ข้อควรรู้: ควรเลือกโปรไบโอติกที่ผ่านการวิจัยในสุนัขโดยเฉพาะ อย่าใช้ของคนเพราะจุลินทรีย์ต่างสายพันธุ์ อาจไม่รอดในลำไส้หมา
คุณอ่านไม่ผิดครับ… ความเครียดกับลำไส้เกี่ยวกันจริง!
งานวิจัยจาก University of Helsinki พบว่า ลำไส้ที่ไม่สมดุลสามารถส่งผลต่อสารเคมีในสมอง เช่น เซโรโทนิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับพฤติกรรม ความวิตก และการตอบสนองของหมา
ขับถ่ายไม่เป็นเวลา
มีกลิ่นตัวแรงผิดปกติ
อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย
เบื่ออาหารแบบไม่มีโรคพื้นฐาน
กลเม็ด: ลองให้โปรไบโอติกต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ แล้วสังเกตพฤติกรรม – ถ้าดีขึ้น นั่นแปลว่า "หมาคุณแค่ต้องการจุลินทรีย์ดี!"
โปรไบโอติกเปรียบเหมือน "จุลินทรีย์ดี"
ส่วนพรีไบโอติกเปรียบเหมือน "อาหารของจุลินทรีย์ดี"
จากการทดลองของ Purina Institute พบว่า เมื่อใช้โปรไบโอติกที่ผสมพรีไบโอติก เช่น FOS (fructooligosaccharide) หรือ MOS (mannan oligosaccharide)
จุลินทรีย์จะสามารถตั้งรกรากในลำไส้ได้นานขึ้น และปรับสมดุลระบบย่อยได้มีประสิทธิภาพกว่า
มองหาฉลากที่เขียนว่า “synbiotic” หรือ “with prebiotic”
เลือกสูตรที่มีจำนวนจุลินทรีย์มากกว่า 1 สายพันธุ์
ให้หลังอาหารเพื่อเพิ่มอัตรารอดของจุลินทรีย์ในระบบย่อย
ข้อควรรู้: จำนวนจุลินทรีย์ในฉลากควรมีหน่วยเป็น “CFU” (colony forming units) โดยควรมีอย่างน้อย 1–3 พันล้าน CFU ต่อหน่วยบริโภค
จากการศึกษาของ Tufts University School of Veterinary Medicine พบว่า
การใช้โปรไบโอติกสามารถช่วยลดอาการแพ้ทางผิวหนังและปัญหาคันเรื้อรังในหมาได้สูงถึง 41% โดยเฉพาะในสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มแพ้ง่าย เช่น ปั๊ก, บูลด็อก, ชิสุ
โปรไบโอติกช่วยปรับสมดุลภูมิคุ้มกัน
ลดการตอบสนองต่อสารกระตุ้นในร่างกาย
ส่งผลให้อาการผิวหนังอักเสบลดลง
กลเม็ด: ใช้ควบคู่กับอาหารสูตร hypoallergenic หรือสูตรบำรุงผิว จะช่วยให้น้องหมากลับมาขนนุ่ม ไม่เกางานแตกทุกคืน
“โปรไบโอติก” สำหรับหมาไม่ใช่แค่ของเสริมเท่ๆ แต่คือเครื่องมือลับที่ช่วยเสริมลำไส้ เสริมภูมิ และเสริมความสุขให้น้องหมาของคุณ
ถ้าหมาคุณมีปัญหาเรื่องท้องเสียบ่อย ขับถ่ายไม่คงที่ แพ้ง่าย หรือแม้แต่อารมณ์แปรปรวน โปรไบโอติกอาจเป็นทางออกที่คุณยังไม่เคยลองครับ!
#โปรไบโอติกหมาใช้ยังไง #หมาลำไส้ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง #เสริมจุลินทรีย์ให้น้องหมา #สุขภาพหมาเริ่มจากลำไส้ #Lazadogห่วงใยน้องหมาทุกจุด
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com