เปิด 5 สถิติน่ารู้ “ฝีในน้องหมา” ก้อนตุ่มที่ดูเหมือนสิวแต่จริงๆ อาจติดเชื้อจนลุกลาม
เคยจับน้องหมาแล้วเจอ "ก้อนนิ่มๆ" ที่อยู่ใต้ผิวหนังไหมครับ?
บางก้อนน้องเจ็บ บางก้อนไม่เจ็บ แต่ดันมีน้ำเหลืองไหลออกมา
หรือบางครั้งก็มี "ตุ่มนูนแดง ร้อน" ที่โตขึ้นอย่างรวดเร็วในไม่กี่วัน — ใช่ครับ นั่นอาจเป็น “ฝี” หรือ Abscess
ซึ่งเป็นการอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อใต้ผิวหนัง อาจดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่ถ้าปล่อยไว้อาจลุกลามถึงกระดูก หรือเป็นพิษในกระแสเลือดได้เลยครับ!
วันนี้ผมจะพาคุณมา เปิด 5 สถิติน่ารู้ของฝีในน้องหมา (Abscessation) พร้อมเคล็ดลับการสังเกต ป้องกัน และการรักษาแบบมืออาชีพที่เจ้าของหมาทุกคนควรรู้ครับ
จากรายงานของ Cornell University College of Veterinary Medicine
พบว่า ฝีในหมากว่า 80% เกิดจากการที่น้องโดนกัดหรือข่วนจากสัตว์อื่น โดยเฉพาะถ้าเล่นกันแรง หรือออกไปลุยนอกบ้าน
หลังคอ
สะโพก
โคนหาง
รอบๆ ก้น
ข้อควรรู้: รอยกัดอาจจะดูเล็ก แต่แผลใต้ผิวลึกมาก และเชื้อจะเริ่มบูมแบบเงียบๆ ภายใน 2–3 วันหลังโดนกัด
จากงานวิจัยของ Journal of Small Animal Practice (UK)
ฝีที่ปล่อยให้แตกเองโดยไม่ล้างให้สะอาดหรือไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะ
จะทำให้เชื้อยังหลงเหลืออยู่ในชั้นผิวหนังลึกๆ และกลายเป็นฝีเรื้อรัง หรือฝีกลับซ้ำ
มีกลิ่นเหม็นจากแผล
แผลซึมหนองเหลืองข้น
ผิวรอบแผลแดง ขยายวงกว้าง
น้องเริ่มซึม กินน้อย หรือมีไข้
กลเม็ด: ถ้าเห็นแผลใกล้จุดสำคัญ เช่น ตา ปาก หรือข้อขา — ห้ามบีบฝีเองเด็ดขาด ต้องให้หมอจัดการ
บางคนคิดว่าก้อนเล็กๆ จะไม่โต… แต่ผิดครับ!
จากรายงานของ Veterinary Dermatology Journal
ฝีที่ติดเชื้อแบบเฉียบพลันอาจโตเร็วมาก และอาจทำให้ผิวหนังด้านบนแตกออกเป็นแผลลึกในเวลาไม่ถึง 2 วัน
พันธุ์หน้าสั้น ขนหนา (เช่น ชิสุ, ปั๊ก, ปอม) มักซ่อนฝีใต้ขน
หมาพันธุ์ล่า หรือหมานอกบ้าน ที่มีการกัดกันหรือโดนข่วนบ่อย
เทคนิค: ใช้มือลูบตัวน้องหมาเป็นประจำ โดยเฉพาะบริเวณขนหนา ถ้าจับแล้วรู้สึกมี “ตุ่มนิ่มร้อน” ให้จดไว้แล้วสังเกตต่อ 24–48 ชั่วโมงครับ
การเจาะฝีให้หนองไหลออกเพียงอย่างเดียวไม่พอครับ
เพราะเชื้อยังอยู่ในชั้นลึกของผิวและเนื้อเยื่อ
สัตวแพทย์มักใช้ยาปฏิชีวนะชนิดเฉพาะทางร่วมด้วย และอาจต้องวางยาหรือใช้ยาชาสำหรับกรณีที่น้องไม่ให้จับ
ตรวจแผล และประเมินว่าฝีแตกหรือไม่
ผ่าระบายหนอง + ล้างแผลด้วยน้ำเกลือหรือคลอเฮกซิดีน
ใส่ยาฆ่าเชื้อ + ปิดแผล
ให้ยาปฏิชีวนะต่อเนื่อง 7–14 วัน
ตรวจซ้ำหากไม่ดีขึ้นใน 5 วัน
ข้อควรรู้: หากน้องแพ้ยาหรือแผลไม่แห้งสนิท อาจต้องเพาะเชื้อดูความต้านทานยาด้วยครับ
จากการศึกษาของ British Small Animal Veterinary Association (BSAVA)
พบว่าน้องหมาที่เป็นฝีบริเวณเดิมๆ ซ้ำๆ มักมาจาก เชื้อหลงเหลือในโพรงฝี หรือเกิดจากการที่ผิวหนังไม่ปิดสนิทหลังแตก
ล้างแผลวันละ 1–2 ครั้ง ด้วยน้ำเกลือสะอาด
ตัดขนรอบแผลเพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกสะสม
งดอาบน้ำ 5–7 วัน
ป้องกันน้องเลียแผลด้วยปลอกคอกันเลีย
เทคนิค: ถ้าหมากินยาไม่ง่าย แนะนำขอยาแบบเคี้ยวหรือผสมอาหารจากคุณหมอครับ สะดวกกว่าเยอะ
“ฝีในหมา” ไม่ใช่เรื่องเล็กครับ
มันคือก้อนติดเชื้อที่สามารถลุกลามได้เร็วและลึกกว่าที่เราคิด
การรู้จักสังเกตไว รักษาให้ถูก และดูแลหลังแผลแตกให้สะอาด คือสิ่งที่จะช่วยให้น้องหมาหายเร็ว ไม่กลับมาเป็นซ้ำ และไม่ต้องเจ็บซ้ำซ้อนครับ!
#ฝีในหมาอย่ารอให้แตกเอง #หมาโดนกัดระวังเป็นฝี #หมาฝีบวมต้องล้างดี #Lazadogดูแลทุกแผลของน้องหมา #เจ้าของหมาต้องจับตุ่มให้ทัน
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com