ทาสแมวจริงจัง! 5 สัญญาณแมวเครียดที่คุณอาจไม่รู้ (พร้อมวิธีช่วยน้องกลับมามีความสุข)
แมว...สัตว์ที่ดูเหมือนจะเยือกเย็น ไม่แคร์ใคร แต่รู้ไหมครับ? น้องแมวเองก็มี "ความเครียด" แบบลึกๆ ในใจเหมือนกัน
แถมหลายครั้งน้องก็ไม่แสดงออกโต้งๆ แบบหมา แต่ส่งสัญญาณแบบเนียนๆ จนทาสเผลอมองข้ามไป
วันนี้เราจะมาเจาะลึก "5 สัญญาณจริงจัง" ที่บอกว่าแมวของคุณกำลังเครียด พร้อมวิธีช่วยให้น้องผ่อนคลายแบบมือโปร!
ข้อมูลแน่น สถิติมา เทคนิคแนบ ข้อควรรู้เพียบ อ่านจบเป็นทาสแมวมืออาชีพได้เลยครับ!
ข้อมูลจาก ASPCA (American Society for the Prevention of Cruelty to Animals) ระบุว่า
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกิน เป็นหนึ่งในสัญญาณแรกๆ ของความเครียดในแมว
ข้อควรรู้
แมวที่เครียดมากอาจหยุดกิน หรือบางตัวกินมากขึ้นเพราะต้องการปลอบใจตัวเอง
สถิติ
งานวิจัยจาก Journal of Feline Medicine and Surgery พบว่า 60% ของแมวที่มีปัญหาความเครียด มีการเปลี่ยนแปลงการกินอย่างชัดเจน
เคล็ดลับ
สังเกตปริมาณอาหารที่แมวกินประจำวัน
ใช้จานอาหารที่สะอาด ไม่มีเสียงดัง หรือเปลี่ยนที่ให้อาหารไปยังมุมเงียบๆ ของบ้าน
ข้อมูลจาก American Association of Feline Practitioners (AAFP) ชี้ว่า
แมวที่เครียดจะเลือกซ่อนตัวในที่มืด แคบ และหลีกเลี่ยงการติดต่อกับมนุษย์และสัตว์เลี้ยงตัวอื่น
ข้อควรรู้
บางครั้งแมวซ่อนตัวเพราะแค่ขี้เกียจ แต่ถ้าเป็นประจำและนานผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณเตือน
เคล็ดลับ
อย่าบังคับน้องออกจากที่ซ่อน แต่ให้สร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยด้วยเสียงเบาๆ และปล่อยให้น้องเลือกเข้าหาเอง
ใช้ Cat pheromone diffuser ช่วยลดความตึงเครียดในบ้าน
ข้อมูลจาก Cornell Feline Health Center ระบุว่า
การเลียขนตัวเองมากผิดปกติ หรือ "Overgrooming" เป็นพฤติกรรมแมวเครียดพบบ่อย
ข้อควรรู้
แมวจะเลียเพื่อปลอบใจตัวเอง คล้ายคนกัดเล็บเวลาวิตกกังวล
เทคนิค
สังเกตว่ามีจุดที่ขนบางลงหรือผิวหนังแดงอักเสบหรือไม่
ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อแยกแยะว่าเป็นปัญหาผิวหนังหรือภาวะเครียด
ข้อมูลจาก PetMD บอกว่า
แมวที่เครียดมากจะเลี่ยงกระบะทราย หรือปัสสาวะนอกกระบะเพื่อ "ทำเครื่องหมายพื้นที่ปลอดภัย"
ข้อควรรู้
แมวไม่ได้ตั้งใจ "แกล้ง" แต่กำลังพยายามหาความมั่นคงทางอารมณ์ด้วยการสร้างกลิ่นตัวเองรอบๆ
เคล็ดลับ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระบะทรายสะอาด วางในที่เงียบสงบ และมีเพียงพอต่อจำนวนแมวในบ้าน
ถ้ามีพฤติกรรมผิดปกตินานเกิน 2-3 วัน ควรปรึกษาสัตวแพทย์
ข้อมูลจาก Veterinary Behaviorists ชี้ว่า
แมวที่เครียดอาจร้องมากขึ้น เสียงเปลี่ยนแหลมขึ้น หรือในทางตรงกันข้าม อาจเงียบผิดสังเกต
ข้อควรรู้
การเปลี่ยนระดับเสียง การเรียกหา หรือการไม่ตอบสนองเสียงเรียกของทาส เป็นหนึ่งในสัญญาณที่ควรจับตา
เคล็ดลับ
ใช้เวลาเล่นกับน้องอย่างสม่ำเสมอ (อย่างน้อยวันละ 20-30 นาที)
จัดตารางเวลาสม่ำเสมอ เช่น ให้อาหารและเล่นเวลาคงที่ เพื่อให้น้องรู้สึกมั่นคง
แมวอาจดูเป็นสัตว์ที่นิ่งเฉย แต่ภายในใจของน้องเองก็มีความอ่อนไหวไม่แพ้ใคร
การสังเกตสัญญาณความเครียดตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วช่วยให้น้องรู้สึกปลอดภัย จะทำให้ทั้งแมวและทาสมีความสุขในทุกๆ วัน
จำไว้นะครับ "แมวเครียด" ไม่ใช่เรื่องเล็ก ถ้าเรารู้ทัน ก็ช่วยน้องได้ทันเวลาแน่นอน!
❝จับสัญญาณแมวเครียดไว ช่วยน้องยิ้มได้ทุกวัน❞
#แมวเครียด #จับสัญญาณแมว #เลี้ยงแมวอย่างเข้าใจ #ช่วยแมวเครียด #Lazadogรู้ใจแมว
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com