ทาสแมวจริงจัง! 5 เรื่องอาหารแมวที่คุณต้องรู้ ก่อนจะเผลอทำร้ายน้องโดยไม่ตั้งใจ
ถ้าอยากให้น้องแมวสุขภาพดี ขนสวย ฟิตเปรี๊ยะ และอยู่กับเรายาวๆ สิ่งหนึ่งที่ต้องใส่ใจสุดๆ คือ "อาหาร" ครับ
เพราะแมวไม่ได้กินอะไรก็ได้แบบที่เราคิด และการให้อาหารผิดประเภทผิดวิธีก็ส่งผลร้ายถึงชีวิตน้องได้เลยทีเดียว!
วันนี้ผมจะพาคุณมาเจาะลึก "5 เรื่องสำคัญเกี่ยวกับอาหารแมว" ที่ทาสจริงจังต้องรู้ พร้อมเทคนิค ข้อควรรู้ และคำแนะนำเสริม
อ่านจบแล้ว จะเลือกอาหารให้น้องได้เหมาะเป๊ะจนแมวต้องยกหางชมแน่นอนครับ!
ข้อมูลจาก American Veterinary Medical Association (AVMA)
แมวต้องการโปรตีนจากสัตว์ในระดับสูง และไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยอาหารมังสวิรัติหรืออาหารสุนัข
ข้อควรรู้
สารอาหารสำคัญ เช่น ทอรีน (Taurine), อาร์จินีน (Arginine) และวิตามิน A แมวต้องได้รับจากเนื้อสัตว์โดยตรงเท่านั้น
เคล็ดลับ
เลือกอาหารแมวที่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนผสมหลักอันดับแรกๆ ในฉลาก
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารเติมแต่งหรือธัญพืชเยอะเกินไป
ข้อมูลจาก PetMD
ลูกแมว แมวโตเต็มวัย และแมวสูงวัย มีความต้องการพลังงานและสารอาหารแตกต่างกัน
ข้อควรรู้
อาหารลูกแมวมีโปรตีนและแคลอรีสูงเพื่อการเจริญเติบโต ส่วนแมวสูงวัยต้องการสูตรควบคุมพลังงานและเสริมข้อต่อ
เคล็ดลับ
เลือกอาหารที่ระบุชัดเจนว่าครอบคลุมช่วงวัยของแมว เช่น "สำหรับลูกแมวอายุ 2-12 เดือน"
เปลี่ยนสูตรอาหารตามวัยของน้องอย่างนุ่มนวล ใช้เวลาประมาณ 7 วันในการผสมอาหารใหม่ทีละน้อย
ข้อมูลจาก Cornell Feline Health Center
อาหารเม็ดช่วยเรื่องฟันและสุขภาพเหงือก ขณะที่อาหารเปียกช่วยเรื่องความชุ่มชื้นในร่างกาย
ข้อควรรู้
แมวมีแนวโน้มดื่มน้ำน้อย อาหารเปียกจึงช่วยเสริมความชุ่มชื้นได้ดีมาก และช่วยลดความเสี่ยงโรคไต
เคล็ดลับ
เสิร์ฟอาหารเปียก 1 มื้อ และอาหารเม็ดอีก 1-2 มื้อต่อวัน
ตรวจสอบพลังงานรวมในแต่ละวัน เพื่อควบคุมน้ำหนักไม่ให้น้องอ้วน
ข้อมูลจาก American Animal Hospital Association (AAHA)
การให้อาหารแมวแบบ "ตามเวลา" (Scheduled Feeding) ดีกว่าการตั้งถาดอาหารทิ้งไว้ทั้งวัน (Free Feeding)
ข้อควรรู้
แมวที่กินอาหารได้ตลอดเวลา มีแนวโน้มเป็นโรคอ้วนสูงขึ้นกว่าแมวที่กินตามเวลาเกือบ สองเท่า
เคล็ดลับ
แบ่งอาหารเป็น 2-3 มื้อต่อวัน ห่างกันประมาณ 8-12 ชั่วโมง
ใช้ชามอาหารขนาดพอเหมาะ เพื่อควบคุมปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ
ข้อมูลจาก ASPCA (American Society for the Prevention of Cruelty to Animals)
ขนมหรือ Treats ไม่ควรเกิน 10% ของพลังงานที่แมวได้รับในแต่ละวัน
ข้อควรรู้
การให้ขนมเยอะเกินไปนอกจากทำให้น้องอ้วน ยังเสี่ยงขาดสารอาหารที่จำเป็นอีกด้วย
เคล็ดลับ
เลือกขนมที่มีสารอาหารเสริม เช่น วิตามิน หรือทอรีน
ใช้ขนมเป็นรางวัลตอนฝึกนิสัย หรือฝึกเล่นเท่านั้น ไม่ใช่ให้พร่ำเพรื่อ
การให้อาหารแมวไม่ใช่แค่เรื่อง "อิ่มท้อง" แต่คือการดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตน้องในระยะยาว
แค่เข้าใจธรรมชาติแมว เลือกอาหารให้เหมาะสม และใส่ใจเรื่องปริมาณกับเวลา คุณก็จะได้เห็นน้องแมวสดใส แข็งแรง และแฮปปี้สุดๆ ไปด้วยครับ!
❝อาหารดี น้องแมวสุขภาพดี ทาสก็สุขใจทุกวัน❞
#อาหารแมวที่ใช่ #โภชนาการแมว #เลือกอาหารแมว #ดูแลแมวอย่างมือโปร #Lazadogรู้ใจแมว
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com