5 เรื่องที่คุณควรรู้ "การควบคุมอาการแพ้แมว"
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่หลายคนหลงรัก แต่สำหรับบางคน ความรักนี้อาจมาพร้อมน้ำมูก ไอ หรืออาการคันตา ซึ่งเป็นอาการของ "ภูมิแพ้แมว" ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นคนแพ้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเลิกเลี้ยงแมวเสมอไป หากรู้วิธีควบคุมอาการและปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม คุณก็สามารถอยู่ร่วมกับแมวได้อย่างมีความสุข
คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าแพ้ขนแมว แต่จริงๆ แล้วสารก่อภูมิแพ้หลักคือ โปรตีน Fel d 1 ซึ่งอยู่ในน้ำลาย น้ำมันจากผิวหนัง และสะเก็ดผิวของแมว เมื่อแมวเลียขน โปรตีนนี้จะติดขน และกระจายไปในอากาศ
ปริมาณ Fel d 1 ขึ้นอยู่กับพันธุ์แมวและเพศ
แมวเพศเมียมักผลิตสารนี้น้อยกว่า
ควรทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอเพื่อกำจัดโปรตีนที่กระจายอยู่ในฝุ่นละอองหรือบนพื้นผิวต่างๆ
ใช้เครื่องฟอกอากาศที่มี HEPA filter
ดูดฝุ่นด้วยเครื่องที่มีระบบกรองละเอียด
ล้างผ้าห่ม ปลอกหมอน และผ้าม่านเป็นประจำ
ไม่ควรให้แมวเข้าห้องนอนหรือขึ้นเตียง เพราะนั่นคือจุดที่เราสัมผัสบ่อยที่สุดและเป็นพื้นที่ที่อากาศหมุนเวียนน้อย
มี “โซนปลอดแมว” ภายในบ้าน
ใช้ผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์ที่ถอดซักได้ง่าย
แยกที่นอนแมวให้ชัดเจน
แม้แมวไม่ชอบอาบน้ำ แต่การอาบน้ำหรือแปรงขนสม่ำเสมอสามารถช่วยลดโปรตีน Fel d 1 ได้มาก โดยเฉพาะหากใช้แชมพูสูตรลดสารก่อภูมิแพ้โดยเฉพาะ
ใช้แชมพูที่ปลอดภัยต่อแมวและลดสารก่อภูมิแพ้
แปรงขนแมวอาทิตย์ละ 2–3 ครั้ง
ให้แมวดูแลโดยมืออาชีพหากจำเป็น
หากอาการแพ้ยังรบกวนชีวิตประจำวัน การพบแพทย์เฉพาะทางอาจช่วยให้คุณสามารถควบคุมอาการได้ดีขึ้น หรือในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำวัคซีนภูมิแพ้ (Allergy shots) ซึ่งช่วยให้ร่างกายทนต่อสารก่อภูมิแพ้ได้มากขึ้นในระยะยาว
ยาต้านฮิสตามีน
สเปรย์พ่นจมูก
วัคซีนภูมิแพ้ (Immunotherapy)
อยู่กับแมวอย่างมีความสุข แม้จะแพ้ก็ไม่ใช่จุดจบของความสัมพันธ์ แค่รู้จักปรับตัวและดูแลสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น คุณก็สามารถมีชีวิตร่วมกับเจ้าเหมียวได้โดยไม่ทรมาน
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:
American College of Allergy, Asthma & Immunology – Cat Allergy
#แพ้แมวแต่ยังเลี้ยงได้ #ควบคุมภูมิแพ้แมว #รักแมวแบบไม่ต้องจาม #ดูแลบ้านให้ปลอดสารก่อภูมิแพ้ #อยู่กับแมวอย่างเข้าใจ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com