5 เรื่องที่คุณควรรู้ "เกี่ยวกับโรค Elbow Dysplasia ในสุนัข" (อัปเดท 2025)

Mar 29, 2025
healthy สุขภาพ
5 เรื่องที่คุณควรรู้ "เกี่ยวกับโรค Elbow Dysplasia ในสุนัข" (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

5 เรื่องที่คุณควรรู้ "เกี่ยวกับโรค Elbow Dysplasia ในสุนัข"

เคยสังเกตไหมครับว่าน้องหมาที่บ้านเดินกะเผลกๆ ขาหน้าไม่ค่อยมั่นคง หรือบางทีก็ไม่ยอมวิ่ง ไม่ยอมกระโดดเหมือนเคย? หลายคนอาจคิดว่า “น้องหมานอนผิดท่า” หรือ “วิ่งชนอะไรมา” แต่จริงๆ แล้วอาจเป็นสัญญาณของโรคที่ชื่อว่า “Elbow Dysplasia” หรือ “ภาวะข้อศอกผิดปกติ” ที่พบได้บ่อยในหมาพันธุ์ใหญ่

แม้โรคนี้จะเริ่มต้นตั้งแต่น้องหมายังเป็นวัยรุ่น แต่มักจะแสดงอาการชัดเจนเมื่อโตขึ้น ถ้าเรารู้เท่าทันตั้งแต่วันนี้ ก็จะช่วยให้น้องหมาเดินได้คล่องตัว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีไปได้นาน

วันนี้ผมจะพาคุณมารู้จักกับ 5 เรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Elbow Dysplasia ในสุนัข เพื่อวางแผนดูแลให้เขามีข้อศอกแข็งแรงทุกก้าว


1. Elbow Dysplasia คืออะไร?

Elbow Dysplasia (ข้อศอกผิดปกติ) คือภาวะที่กระดูกหรือข้อต่อบริเวณข้อศอกของน้องหมาเจริญเติบโตผิดปกติ ทำให้เกิดการเสียดสี เจ็บปวด และเดินผิดปกติในระยะยาว

ภาวะนี้รวมถึงความผิดปกติหลายแบบ เช่น:

  • กระดูกบางชิ้นในข้อศอกไม่เชื่อมติดกัน

  • ผิวข้อไม่เรียบ ทำให้เกิดแรงกดเฉพาะจุด

  • การสึกหรอของกระดูกอ่อนแบบไม่สมดุล

สิ่งที่ควรรู้: เป็นโรคที่พบได้บ่อยในหมาพันธุ์ใหญ่ เช่น ลาบราดอร์ โกลเด้น เยอรมันเชพเพิร์ด และโรทรไวเลอร์


2. อาการของ Elbow Dysplasia ดูยังไง?

น้องหมาที่มีภาวะนี้อาจแสดงอาการเพียงเล็กน้อยในช่วงแรก โดยเฉพาะตอนยังเด็ก จนกว่าโรคจะลุกลาม

อาการที่ควรสังเกต:

  • เดินกะเผลกขาหน้า โดยเฉพาะหลังตื่นนอน

  • ไม่อยากวิ่ง กระโดด หรือเล่นหนัก

  • แสดงอาการเจ็บเวลาแตะบริเวณข้อศอก

  • กล้ามเนื้อขาหน้าลีบลงเมื่อใช้ขาน้อยลง

สิ่งที่ควรรู้: บางตัวอาจเดินปกติแต่ขยับช้า ถ้าสังเกตนานๆ จะเริ่มเห็นพฤติกรรมหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เคยทำ


3. สาเหตุของโรคมาจากอะไร?

Elbow Dysplasia เกิดได้จากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น:

  • พันธุกรรม: พ่อแม่ที่เป็นโรคมีโอกาสถ่ายทอดให้ลูกสูง

  • โภชนาการ: อาหารที่มีแคลเซียมสูงเกินไปในวัยลูกสุนัข

  • น้ำหนักตัว: หมาที่อ้วนเกินไปมีแรงกดที่ข้อต่อมากขึ้น

  • การออกกำลังกายหนักเกินในช่วงเจริญเติบโต เช่น กระโดดหรือวิ่งเร็วตั้งแต่ยังเล็ก

สิ่งที่ควรรู้: ถ้าน้องหมายังอายุไม่ถึง 1 ปี แต่เริ่มเดินแปลกๆ ควรรีบพาไปวินิจฉัยทันที


4. วิธีวินิจฉัยและรักษาทำอย่างไร?

การตรวจด้วยมือเปล่าอาจไม่พอ ต้องใช้เครื่องมือช่วยในการวินิจฉัย

  • X-ray หรือ CT scan: ดูโครงสร้างข้อต่อ

  • การตรวจการเคลื่อนไหวของขา: สังเกตอาการเจ็บและช่วงการเคลื่อนไหว

แนวทางการรักษา:

  • กรณีไม่รุนแรง: ใช้ยาแก้อักเสบ ควบคุมน้ำหนัก ทำกายภาพ

  • กรณีรุนแรง: อาจต้องผ่าตัดเพื่อลดแรงเสียดสี หรือแก้ไขโครงสร้างข้อ

สิ่งที่ควรรู้: ยิ่งวินิจฉัยได้เร็ว โอกาสฟื้นฟูข้อให้ใกล้เคียงปกติก็ยิ่งสูง


5. ป้องกันไม่ให้เกิด หรือชะลอความรุนแรงได้อย่างไร?

แม้พันธุกรรมจะควบคุมไม่ได้ แต่เราสามารถชะลอหรือลดโอกาสเกิด Elbow Dysplasia ได้ด้วยวิธีเหล่านี้

  • ให้ อาหารสำหรับลูกหมาพันธุ์ใหญ่โดยเฉพาะ

  • ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสมในทุกช่วงวัย

  • หลีกเลี่ยงการกระโดดหรือออกกำลังหนักก่อนอายุ 1 ปี

  • พาไปตรวจร่างกายสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหมาพันธุ์เสี่ยง

สิ่งที่ควรรู้: หมาที่มีพันธุกรรมโรคนี้ ควรงดการผสมพันธุ์ เพื่อไม่ส่งต่อภาวะนี้ไปยังรุ่นลูก


Elbow Dysplasia อาจดูเหมือนแค่อาการกะเผลกเล็กน้อย แต่จริงๆ แล้วมันคือปัญหาระยะยาวที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของน้องหมาอย่างมาก การรู้จักสังเกตอาการ รู้สาเหตุ และเริ่มดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ คือหัวใจของการช่วยให้เขาเดินอย่างมั่นคงได้ตลอดชีวิต#ข้อศอกหมาผิดปกติ #หมาเดินกะเผลก #โรคข้อศอกในหมาพันธุ์ใหญ่ #LazadogCareTips


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมาให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts