5 เรื่องที่คุณควรรู้ "อาเจียนน้ำดีในน้องหมา (Bilious Vomiting Syndrome) อาการนี้ไม่ควรปล่อยผ่าน" (อัปเดท 2025)

Mar 29, 2025
healthy สุขภาพ
5 เรื่องที่คุณควรรู้ "อาเจียนน้ำดีในน้องหมา (Bilious Vomiting Syndrome) อาการนี้ไม่ควรปล่อยผ่าน" (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

5 เรื่องที่คุณควรรู้ "อาเจียนน้ำดีในน้องหมา (Bilious Vomiting Syndrome) อาการนี้ไม่ควรปล่อยผ่าน"

เช้านี้คุณตื่นขึ้นมาแล้วเห็นน้องหมากำลังอาเจียนเป็นน้ำเหลืองเขียวๆ บนพื้นบ้าน หรือพรมผืนโปรดใช่ไหมครับ? ถ้าน้องหมายังดูแข็งแรง วิ่งเล่นได้ กินอาหารได้ตามปกติ หลายคนอาจคิดว่า "ไม่เป็นไรหรอก มันคงแค่พะอืดพะอม" แต่รู้ไหมครับว่าอาการแบบนี้อาจเกี่ยวข้องกับภาวะที่เรียกว่า “Bilious Vomiting Syndrome” หรือ อาการอาเจียนน้ำดีในน้องหมา

วันนี้ผมจะพาคุณมาทำความเข้าใจ 5 เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับภาวะอาเจียนน้ำดีในสุนัข ซึ่งอาจดูเล็ก แต่ถ้ารู้ไม่ทัน อาจกระทบสุขภาพของเจ้าตูบแบบไม่รู้ตัว


1. อาการอาเจียนน้ำดีคืออะไร?

Bilious Vomiting Syndrome (BVS) คืออาการที่น้องหมาอาเจียนออกมาเป็นน้ำสีเหลืองอ่อนหรือเขียว ซึ่งเกิดจาก น้ำดีในกระเพาะอาหาร ที่ไหลย้อนขึ้นมา เมื่อกระเพาะว่างนานเกินไป โดยเฉพาะช่วงกลางคืนถึงเช้าก่อนมื้อแรก

ลักษณะอาเจียน:

  • เป็นของเหลว สีเหลืองหรือเขียว

  • ไม่มีเศษอาหาร

  • มักเกิดตอนท้องว่าง โดยเฉพาะตอนเช้า

สิ่งที่ควรรู้: เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในหมาที่กินอาหารไม่ตรงเวลา หรือกินมื้อเดียวในช่วงเย็น


2. อาเจียนน้ำดีต่างจากอาเจียนทั่วไปยังไง?

อาการอาเจียนของน้องหมาเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น แพ้อาหาร ติดเชื้อ หรือกินอะไรผิดเข้าไป แต่การอาเจียนน้ำดีจาก BVS จะมีลักษณะเฉพาะที่ต่างออกไป

เปรียบเทียบง่ายๆ:

  • BVS: อาเจียนตอนท้องว่าง ไม่มีอาการอื่นร่วม

  • อาเจียนจากโรค: มักมีอาการอื่นร่วม เช่น ท้องเสีย เบื่ออาหาร ซึม อ่อนแรง

สิ่งที่ควรรู้: ถ้าอาเจียนน้ำดีบ่อยทุกวัน ควรสังเกตเพิ่มเติมว่ามีอาการอื่นประกอบด้วยหรือไม่


3. ใครบ้างที่เสี่ยงเป็น BVS?

น้องหมาทุกตัวสามารถเกิดภาวะนี้ได้ แต่จะพบมากใน:

  • น้องหมาที่กินอาหารมื้อเดียว

  • หมาที่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อย

  • หมาพันธุ์เล็กที่มีระบบย่อยอ่อนไหว

  • หมาที่กินอาหารไม่เป็นเวลา หรือชอบงดมื้อเช้าเอง

สิ่งที่ควรรู้: น้องหมาที่เคยมีปัญหาเรื่องตับ ถุงน้ำดี หรือกระเพาะอาหาร ควรได้รับการดูแลเรื่องเวลาให้อาหารเป็นพิเศษ


4. วิธีป้องกันและจัดการเมื่อเจออาการนี้

ข่าวดีคือ BVS สามารถดูแลได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้ยาเสมอไป ถ้าจัดการให้ถูกจุด

วิธีดูแลเบื้องต้น:

  • แบ่งอาหารเป็น 2–3 มื้อต่อวัน

  • เพิ่มของว่างเล็กๆ ก่อนนอน เช่น ขนมสุนัขสูตรย่อยง่าย หรืออาหารเปียก

  • เลือกอาหารที่ย่อยง่าย ไม่มัน ไม่เค็ม ไม่เผ็ด

  • ถ้าอาเจียนติดต่อกันหลายวัน ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม

สิ่งที่ควรรู้: อย่าใช้ยาระงับอาเจียนเองโดยไม่ปรึกษาหมอ เพราะอาจกลบอาการสำคัญที่ต้องวินิจฉัย


5. ต้องพาไปหาหมอเมื่อไร?

ถึงแม้ BVS จะไม่ใช่อาการร้ายแรงเสมอไป แต่หากเกิดถี่เกิน หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย อาจไม่ใช่แค่ BVS แล้ว

พาไปพบสัตวแพทย์ทันทีหากน้องหมา:

  • อาเจียนถี่วันละหลายรอบ

  • มีเลือดในอาเจียน

  • เบื่ออาหาร หายใจเร็ว หรือซึม

  • น้ำหนักลดแบบไม่มีสาเหตุ

  • มีอาการถ่ายผิดปกติร่วมด้วย

สิ่งที่ควรรู้: การวินิจฉัยจากสัตวแพทย์อาจรวมถึงการตรวจเลือด อัลตราซาวด์ หรือ X-ray เพื่อดูระบบย่อยและถุงน้ำดี


อาการอาเจียนน้ำดีในน้องหมาอาจดูไม่รุนแรง แต่ถ้าเกิดบ่อย หรือเจ้าของไม่เข้าใจสาเหตุที่แท้จริง อาจทำให้น้องหมาไม่สบายตัวอยู่ทุกเช้าโดยที่เราคิดว่า “ไม่เป็นไร” การรู้จัก BVS และปรับวิธีการให้อาหารให้เหมาะสมคือกุญแจสำคัญในการดูแลน้องหมาให้อยู่สบายทุกวัน #อาเจียนน้ำดีในหมา #อาการตอนท้องว่าง #หมากินมื้อเดียวเสี่ยง #LazadogCareTips


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมาให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts